หุ้นทอง
"เอเชียกรีน เอนเนอจี"ตั้งเป้าปีนี้ปั้นรายได้แตะ 9 พันล้าน


“เอเชียกรีน เอนเนอจี”ดึงโลจิสติกส์ด้านการขนส่งทางน้ำ-ทางบกรวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้าเสริมความแข็งแกร่ง สร้างรายได้ราว 900 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวมปีนี้คาดแตะ 9,000 ล้าน ขณะที่ปีนี้ความต้องการใช้ถ่านหินภาคอุตสาหกรรมคึกคัก มั่นใจยอดขายถ่านหินทั้งปีราว 4 ล้านตัน


บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน)หรือAGE ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหิน บิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด)นั้น บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2562 ไว้ที่ระดับ 9,000 ล้านบาท โดยบริษัทได้กำหนดแผนการดำเนินธุรกิจเชิงรุก เพื่อเป็นการขยายช่องทางการตลาด ให้มีความหลากหลายและครอบคลุม ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายในตลาดต่างประเทศไว้ที่ 25%และในประเทศที่ 65% โดยตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินทั้งปีที่ระดับ 4 ล้านตันและตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ 10%

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนไปยังในธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้ามากขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ระดับ 900 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณร้อยละ 10 ของรายได้รวม จากกองเรือลำเลียงที่จะ เพิ่มขึ้นเป็น 24 ลำ จากปีก่อนที่มีกองเรือ จำนวน 12 ลำ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งทางน้ำ ของกลุ่มผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีแผนปรับปรุงพื้นที่ เพื่อพัฒนาท่าเรือเพิ่มเติมเป็นท่าที่ 3 จากเดิมที่มีท่าเรือในการให้บริการอยู่แล้ว จำนวน 2 ท่า ในบริเวณคลังสินค้า อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2562 นี้ ถือเป็นการเพิ่มความสามารถในการขนถ่ายสินค้าหน้าท่าให้เพิ่มขึ้น

“ในปี 2562 นอกจากธุรกิจถ่านหินแล้ว ยังเป็นปีที่บริษัทฯมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้ จากธุรกิจด้านโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการต่อยอดรายได้และลดการพึ่งพิงธุรกิจหลัก อย่างถ่านหินเพียงอย่างเดียว โดยการต่อยอดธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือและคลังสินค้าที่จะมีทั้งจำนวนกองเรือที่เพิ่มเข้ามาอีก 12 ลำที่จะส่งมอบในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 ทำให้บริษัทฯมีเรือลำเลียงทั้งหมดเป็น 24 ลำและมีท่าเรือเพิ่มอีก 1 ท่า ถือเป็นการ เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น

“คาดว่าสัดส่วนรายได้จากการให้บริการท่าเรือคลังถ่านหินและโลจิสติกส์ ขยับเป็น 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 5%ขณะที่รายได้หลักจากธุรกิจถ่านหิน ในประเทศจะอยู่ที่ 65% และรายได้จากการขายถ่านหินในต่างประเทศในอยู่ที่ 25%” นายพนม กล่าว

สำหรับภาพภาพรวมอุตสาหกรรมการใช้ถ่านหินในประเทศ มองว่าความต้องการใช้ถ่านหินยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ของกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมผลิตกระดาษรวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น โดยจะเห็นได้จากในช่วง 10 เดือนแรกปี 2561 ประเทศไทยมีการนำเข้าถ่านหินประมาณ 21.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ในขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินประเทศเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ที่โตเฉลี่ยปีละ 7% ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆ มีการเพิ่มกำลังการผลิตและใช้ถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องไปกับ แผนการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินจาก 37% ในปี 2559 เป็น 53% ในปี 2573 และทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2573ประเทศเวียดนามจะมีการนำเข้าถ่านหินสูงถึง 100 ล้านตันต่อปี

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ม.ค. 2562 เวลา : 19:25:47
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 1:00 am