เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ซีพีเอฟประกาศ4นโยบายและแนวปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนลดใช้พลาสติก


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน)หรือซีพีเอฟ ประกาศ4นโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ครอบคลุมกิจการทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนการลดพลาสติกตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน


ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติกเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความสนใจในระดับโลก ซีพีเอฟ จึงได้ประกาศนโยบายบรรจุภัณฑ์ฯซีพีเอฟดังกล่าวตั้งเป้าหมายบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดของบริษัทจะต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ(Reusable)หรือนำมาใช้ใหม่(Recyclable)หรือนำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ได้(Upcyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้(Compostable)100% และจะยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่จำเป็นภายในปี 2568 สำหรับกิจการในประเทศไทย ส่วนกิจการในต่างประเทศจะดำเนินการภายในปี 2573

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายฯบริษัทได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำคัญ 4 ข้อ คือ 1. ส่งเสริมการใช้วัสดุที่ทดแทนใหม่ได้จากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน 2. สนับสนุนการนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle System)หรือนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วไปผลิตเป็นพลังงาน (Energy Recovery)ได้แก่โครงการรับคืนบรรจุภัณฑ์จากผู้บริโภค(Take-back System) 3.เพิ่มสัดส่วนวัสดุรีไซเคิลตามความเหมาะสมในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่สามารถทำได้ โดยไม่กระทบกับคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร 4.มุ่งพัฒนารูปแบบการใช้ซ้ำแทนการใช้ครั้งเดียวสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือการขนส่งตามความเหมาะสม
  
นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ กล่าวว่าบริษัทฯมุ่งมั่นพัฒนาและบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ให้เกิดความยั่งยืนเพื่อให้ใช้ทรัพยากรในการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างคุ้มค่า ซึ่งคาดว่านโยบายนี้จะช่วยลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบและเผาต่อหน่วยการผลิตลง 30%เมื่อเทียบกับปีฐาน2558ตามเป้าหมายความยั่งยืนปี 2563ของบริษัท ซึ่งในปี2560บริษัทสามารถลดปริมาณของเสียได้แล้ว9.08%

“ซีพีเอฟมุ่งมั่นพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าและบรรจุภัณฑ์ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่เป็นHot spot ตั้งแต่กลุ่มโรงงานผลิตอาหารสัตว์บก กลุ่มฟาร์มสัตว์น้ำ รวมถึงโรงงานผลิตอาหารของบริษัท” นายสุขสันต์กล่าว 

นอกจากนี้นโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน”ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งกำหนดให้ทุกกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศไทยต้องหันมาใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ทำจากวัสดุ“นำกลับมาใช้ซ้ำ นำมาใช้ใหม่และย่อยสลายได้”  ทั้งหมดภายในปี2568ขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนนโยบายขององค์กรด้านความยั่งยืนระดับโลกซึ่งซีพีเอฟเป็นสมาชิกอยู่ เช่น for Ocean Stewardship (SeaBOS) และWorld Business Council for Sustainable Development (WBCSD) รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติข้อ 12 การผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน  

นายสุขสันต์ กล่าวว่าซีพีเอฟลดการใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตด้วยการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมสีเขียวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดขยะพลาสติกในห่วงโซ่คุณค่าทุกสายธุรกิจ ทำให้ในปัจจุบันสามารถลดการใช้พลาสติกได้มากกว่า 10,000 ตันต่อปี เช่นในปี 2556 โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกของซีพีเอฟใช้ Bulk feed tank ทดแทนการใช้ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสัตว์และในปี 2560สามารถลดการใช้พลาสติกได้ 60%ของการใช้พลาสติกในกระบวนการผลิต หรือคิดเป็นพลาสติกมากกว่า 8,000 ตัน เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง17,000 ตันคาร์บอน นอกจากนั้นยังได้ขยายผลไปยังกิจการต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์และรัสเซีย และในธุรกิจสัตว์น้ำได้นำ Q-pass tank มาใช้ที่ฟาร์มสัตว์น้ำเพื่อทดแทนการใช้ถุงพลาสติกบรรจุลูกกุ้ง ลดพลาสติกได้มากกว่า 1,600 ตัน เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 3,600 ตันคาร์บอน

ในส่วนโรงงานแปรรูปเนื้อไก่และอาหารแปรรูป บริษัทมีการพัฒนาการลำเลียงวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตและการขนส่งสินค้า ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ลดปริมาณการใช้พลาสติกตั้งแต่ปี 2549จนถึงปัจจุบันได้มากกว่า 3,500 ตัน  นอกจากนี้ถุงพลาสติกทั้งหมดที่บริษัทใช้ในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่และอาหารแปรรูปจะต้องไม่ก่อให้เกิดขยะฝังกลบ ภายในปี 2568

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม)ของบริษัทกล่าวว่า ซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่นำพลาสติกชีวภาพย่อยสลาย(Poly Lactic Acid หรือ PLA)ซึ่งทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่นข้าวโพดและสามารถย่อยสลายได้เร็วกว่าพลาสติกทั่วไปมาใช้กับบรรจุภัณฑ์อาหารหมูสดและไก่สด 

“บริษัทมุ่งสร้างนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารที่ตอบสนองความต้องการให้แก่ผู้บริโภคทั้งด้านการใช้งาน ด้านภาพลักษณ์ ตลอดจนถึงความปลอดภัยด้านอาหารและการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าที่สุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาประยุกต์ใช้”นายสุขวัฒน์ กล่าว

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวบริษัทได้ส่งเสริมบุคลากรให้มีความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ ความคิดสร้างสรรค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้าง Innovation & Renovation รวมถึงตั้งเป้าให้ศูนย์ Research and Development Center ซึ่งเพิ่งเปิดตัวใหม่ เป็นศูนย์กลางการวิจัยพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้เทคโนโลยี การออกแบบเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในทุกกลุ่มธุรกิจอาหารและวิเคราะห์แก้ไขปัญหาด้านบรรจุภัณฑ์ให้กับบริษัทในเครือทั้งในและต่างประเทศ(Technical Assistance)
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ม.ค. 2562 เวลา : 17:16:49
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 8:20 am