แบงก์-นอนแบงก์
กรุงศรีมีกำไรสุทธิ 24.8 พันล้านบาทในปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.9%


กรุงศรีรายงานกำไรสุทธิ 24.8 พันล้านบาทในปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.9% จากรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมส่วนสินเชื่อเติบโตที่ 10.4%


กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2561 โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 24.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากปี 2560 ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่สูงถึง 10.4% และการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำศักยภาพที่แข็งแกร่งของกรุงศรีและความคล่องตัวในการปรับพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง 
   
 
 
 
 
 
 
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่ามีปัจจัยท้าทายจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ กรุงศรียังคงส่งมอบผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2561 ด้วยผลกำไรสุทธิสูงถึง 24.8 พันล้านบาท เงินให้สินเชื่อของกรุงศรีเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 10.4% และมีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบทำให้คุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นที่น่าพอใจ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.06% และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับสูงที่ 165.8% ความสำเร็จดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีถึงผลจากการดำเนินงานตามแผนธุรกิจและสะท้อนศักยภาพความคล่องตัวในการปรับตัวเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” 

นายโกโตะให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวมในปี 2562ว่า “ธนาคารยังคงระมัดระวังปัจจัยภายนอกประเทศท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตที่ 4.1% ด้วยปัจจัยหนุนจากการลงทุนที่เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นและการเดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ผนวกกับแนวโน้มนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง ธนาคารจึงคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้จะอยู่ในช่วง 6-8%” 

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝากและเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม1.67 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก1.43 ล้านล้านบาทและสินทรัพย์รวม 2.2 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 228.98 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า15.13%ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.59% 

หมายเหตุ: อัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เป็นตัวเลขก่อนการเปลี่ยนการจัดประเภทเงินให้สินเชื่อของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ม.ค. 2562 เวลา : 11:28:23
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 7:11 pm