การตลาด
สกู๊ป เครื่องปรับอากาศส่งสัญญาณแข่งดุรายใหญ่งัดหมัดชิงแชร์


เริ่มส่งสัญญาณคึกคักสำหรับตลาดเครื่องปรับอากาศ หลังผู้ประกอบการในตลาดเริ่มออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมเปิดแผนกลยุทธ์เพื่อชิงแชร์ตลาดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 47,300 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของปี2562 นี้คาดการณ์กันว่าในแง่ของมูลค่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 5% ขณะที่จำนวนเครื่องคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 8%


จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้ปี2562นี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศน่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรง เพราะผ่านไปแค่กว่า2สัปดาห์แรกของปีนี้ ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องปรับอากาศก็ออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่กันเกือบครบทุกแบรนด์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ไปคงต้องมาลุ้นกันมาปีนี้สภาพอากาศจะเป็นใจให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้หรือไม่ เพราะปัจจัยดังกล่าวถือเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญที่จะทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโต นอกเหนือจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
 
 
 
 

 
 
 
นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่าแผนการดำเนินธุรกิจในปี2562นี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นเสริมกลยุทธ์สร้างความเติบโตในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศศูนย์กลางของเอเชียและมีแนวโน้มอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2562นี้บริษัทจะขับเคลื่อนองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน“SDGs หรือ Sustainable Development Goals”ขององค์การสหประชาชาติ 

นอกจากนี้การที่บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น(ประเทศญี่ปุ่น)กำลังก้าวเข้าสู่วาระครบรอบ 100 ปีแห่งการประกอบการในปี2563ทำให้บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการมุ่งมั่นในการประกอบธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสู่ความสำเร็จของการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุยอดขายไม่ต่ำกว่า5ล้านล้านเยนในปี2563

นายยาซุชิ กล่าวต่อว่าการแข่งขันทางการตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของไทยปัจจุบันยังคงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ซึ่งในส่วนของแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศกลุ่มอินเวอร์เตอร์ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศภายในบ้านอันดับ1และแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอันดับ 1 ของตลาดในประเทศไว้ ซึ่งในปี2562นี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า10%

ในส่วนของเครื่องปรับอากาศซัมซุงก็ออกมาประกาศกลยุทธ์การนำเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะเพื่อสุขภาพเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น

 
 
 
 
 
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ยังคงเน้นจุดยืนในการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมผ่านไลน์อัพเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอเตอร์ใหม่ ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนามาให้เป็นเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่การประหยัดไฟจากระบบอินเวอร์เตอร์เท่านั้น แต่เครื่องปรับอากาศ Wind-free plus wi-fi ในปีนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์Wind-Freeที่ให้ความเย็นสบายโดยไม่มีลมมาปะทะตัว

นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการฟอกอากาศ ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ด้วยระบบไฟฟ้าสถิตย์และเพิ่มเทคโนโลยีฟอกอากาศพร้อมยับยั้งไวรัส 99.99% ผ่านฟังก์ชั่น Virus Doctor ให้คุณมั่นใจเต็มขั้นด้วยแผ่นกรองอากาศแบบเต็มแผงมากถึง3ชั้น ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ซึ่งนอกจากจะเป็นเครื่องปรับอากาศที่มอบทั้งสุขภาพที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว เครื่องปรับอากาศซัมซุง รุ่นปี 2019 ยังถือเป็นนวัตกรรมอัจฉริยะ ที่รองรับการสั่งงานผ่านเสียง อย่าง Bixby  ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตและมอบไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่ออย่างลงตัว ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาด ซัมซุง คาดว่าจะมียอดขายเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ
 

 
 
 
 
 
ด้านเครื่องปรับอากาศไดกิ้น นอกจากจะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคต ไดกิ้น มีแผนที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาด้าน Solution Business โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนางานบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ เช่น Green Building, Smart Home Automation และก้าวสู่การเป็น Absolute No. 1 อย่างแท้จริง

นายอาคิฮิสะ โยโคยามา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำตลาด (Market Leader) ในตลาดเครื่องปรับอากาศทุกเซ็กเมนท์ และเป็นผู้นำตลาดในด้านการให้บริการเครื่องปรับอาการแบบครบวงจร โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นเป้าหมายหลักสูงสุด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้มีการออกสินค้าตัวใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่พักอาศัย และเชิงพาณิชย์ โดยในปีงบประมาณ 2561 ที่จะจบในเดือนมี.ค.2562นี้ บริษัทคาดว่าจะปิดยอดขายได้ที่ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า15% ทำให้บริษัทยังคงสามารถรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 29%

ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ได้กิ้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านของยอดขาย เหตุผลหลักมาจากปีที่ผ่านมาผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาใช้เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์กันมากขึ้นจากเดิมสัดส่วนอินเวอร์เตอร์ในไทยอยู่ที่ 44% (ปี 2560) ในปี 2561 นี้เพิ่มขึ้นเป็นราว 60%

 

LastUpdate 19/01/2562 20:39:19 โดย : Admin
18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 9:22 pm