เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
นักท่องเที่ยวจีนเตรียมขอวีซ่าออนไลน์ผ่านระบบ Thai e-Visa กลาง ก.พ.นี้


กรมการกงสุล เปิดตัวระบบขอวีซ่าออนไลน์(Thai e-Visa)ระยะแรกของไทยอย่างเป็นทางการ ประเดิมจีนเป็นชาติแรกในโลก พร้อมให้บริการที่กรุงปักกิ่ง15กุมภาพันธ์และขยายไปยังเมืองอื่นๆในจีนต้นเดือนมีนาคมนี้


นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทย จึงได้พัฒนาระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (Thai e-Visa) ระยะแรกของไทยจะเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในโลกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนวันที่ 15 กุมภาพันธ์และขยายไปยังเมืองอื่นๆในจีนวันที่1มีนาค 2562 ซึ่งจะช่วยให้ชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยสามารถขอวีซ่าออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง สะดวก รวดเร็ว สามารถยื่นคำร้องได้ทุกที่ทุกเวลา

ขั้นตอนการยื่นขอรับการตรวจลงตรามี 3 ขั้นตอน ได้แก่  1)ลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม และทำการนัดหมายผ่านเว็บไซต์ www.thaievisa.go.th 2)ชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบ E-Payment ที่ปลอดภัยและหลากหลายช่องทาง โดยสามารถยื่นคำร้องได้ทุกที่ ทุกเวลา และ 3)นำหนังสือเดินทางไปยื่นที่สถานทูตหรือสถานกงสุล ตามวันและเวลาที่นัดหมายในขั้นตอนที่1เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุมัติและติดแผ่นปะตรวจลงตราลงบนเล่มหนังสือเดินทาง

นายพิริยะ เข็มพล  เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่าปี2561ที่ผ่านมานับได้ว่าเป็นปีสำคัญด้านการท่องเที่ยวไทยและความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับจีน ในจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปีที่ผ่านมากว่า 37 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 10.5 ล้านคน หรือมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ในจำนวนดังกล่าว เป็นการขอรับการตรวจลงตราจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในจีนทั้ง 10 แห่งกว่า 5.9 ล้านราย หรือเกือบร้อยละ 60 ของจำนวนการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด ดังนั้นการดำเนินโครงการThai e-Visa ในช่วงเวลานี้ จึงถือได้ว่าเป็นการดำเนินการที่“ถูกที่ ถูกเวลา” ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนจีนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยและมีความยินดีที่กรมการกงสุลเลือกกรุงปักกิ่งเป็นสถานที่เปิดตัวโครงการ Thai e-Visaในประเทศจีน

อีกทั้งการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในระบบดังกล่าวถือเป็นการดำเนินตามวิสัยทัศน์ของประเทศไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)กล่าวคือการพัฒนาให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนการสร้างความประทับใจในการให้บริการผ่านระบบ Thai e-Visa จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกที่ดีต่อการต้อนรับที่อบอุ่นของคนไทย และอยากเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยอีกหลายๆครั้ง ทำให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยระบบที่มีมาตรฐานสากลเพื่อรองรับการให้บริการแห่งอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวโน้มของโลกด้วย

นายพิพิธ เอนกนิธิ  กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทยมีความยินดีที่ได้รับโอกาสในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการThai e-Visa ในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเข้ามา สนับสนุนระบบการชำระค่าธรรมเนียมอิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถรองรับธุรกรรมข้ามประเทศได้กว่า126สกุลเงินทั่วโลกผ่านหลายช่องทาง ทั้งบัตรเครดิต QR Code และ Internet Banking เริ่มต้นที่ประเทศจีนเป็นแห่งแรก โดยรองรับการชำระเงินด้วย QR Code ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ Alipay WeChatPay และ UnionPay เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดคิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีการใช้จ่ายสูงสุด 65,000 บาทต่อคน เนื่องมาจากประเทศจีนเองมีขยายตัวของชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนชนชั้นกลางสูงถึงกว่า 400 ล้านคนในปี 2561 และเป็นนักท่องเที่ยวยุคดิจิทัลที่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในการหาข้อมูลท่องเที่ยว และชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก เห็นได้จากจำนวนประชากรจีนที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือมีสัดส่วนสูงถึง97%ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ต

นายชาตรี กล่าวเสริมว่าในอนาคตไทยจะนำระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบที่ไม่ต้องติดแผ่นปะตรวจลงตราลงบนเล่มหนังสือเดินทางมาใช้ โดยจะเป็นการแจ้งผลตรวจลงตราทางอีเมลแทน ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเดินทางของคนทั้งสองประเทศและนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยจีนมากยิ่งขึ้น
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ม.ค. 2562 เวลา : 22:38:25
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 8:02 pm