พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเริ่มวันที่ 6 เม.ย.ต่อเนื่องเดือน พ.ค. ด้านคณะรัฐมนตรีกำหนดให้วันที่ 6 พ.ค.เป็นวันหยุดราชการ ขอประเทศสงบจัดกิจกรรมต่อเนื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า ถือเป็นงานพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของคนไทย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 เม.ย.มีพิธีพลีกรรมตักน้ำทุกจังหวัดโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
จากนั้นวันจันทร์ที่ 8-9 เม.ย.จะมีพิธีเสกน้ำที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและวันพฤหัสบดีที่ 18 และวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.มีพิธีเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเรื่องของน้ำนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าขอให้เป็นน้ำที่สะอาด โดยต้องมีการพิสูจน์คัดกรองต่างๆให้ดีให้บริสุทธิ์ สะอาด ถือเป็นมงคล เพราะทรงใช้สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันจันทร์ที่ 22 และวันอังคารที่ 23 เม.ย.จะเป็นพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมในเดือน เม.ย.
นายกฯกล่าวว่าจากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จบวงสรวงและวันศุกร์ที่ 3 พ.ค.จะเป็นพิธีเชิญพระสุพรรณบัฏเข้าวัง และประกาศการบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมี ครม.และคู่สมรสไปร่วมด้วย ส่วนวันเสาร์ที่ 4 พ.ค. ช่วงเช้า จะเป็นพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงบ่าย ถวายพระพร ช่วงเย็น พิธีประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และพิธีสักการะพระบรมอัฐิ
สำหรับช่วงค่ำจะเป็นพิธีเถลิงพระแท่นบรรจถรณ์ จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.ช่วงเช้า มีพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย ช่วงเย็น พิธีเลียบพระนคร ส่วนวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. ช่วงเย็นเสด็จออกให้ประชาชนเฝ้าและรับคณะทูต ในวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.นี้ได้หารือแล้วเห็นควรให้เป็นวันหยุดราชการ ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ วันอาทิตย์และ วันจันทร์ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการต่างๆเป็นไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ยังมีอีกพอสมควร เป็นกิจกรรมถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน มีตั้งแต่เรื่องการเปิดโครงการในเรื่องของคลองเปรมประชากร ในต่างจังหวัดก็มีเรื่องของคูคลองทั่วประเทศ เรื่องของการทำจิตอาสา การจัดสวดมนต์และกิจกรรมของหลายศาสนา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าในช่วงการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือน พ.ค.นี้ ขอให้เข้าใจด้วยว่า ทำไมถึงต้องทำให้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความเรียบร้อย ช่วงนั้นการเมืองก็เดินหน้าไปสู่การเตรียมการจัดตั้งรัฐบาล คงไม่วุ่นวายเท่าไร ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน
อย่างไรก็ดีสิ่งที่กังวลอย่างเดียว คือหลังการเลือกตั้ง แต่ระหว่างนี้คงไม่น่ามีอะไร เพราะทุกคนมีบทเรียนแล้ว ทั้งนักการเมือง พรรคการเมือง ประชาชน ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร ในส่วนตนเองมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ข่าวเด่น