แบงก์-นอนแบงก์
SME D Bank จับมือกรมการค้าต่างประเทศ 4 สถาบันการศึกษาแนวหน้าไทยคลอดแคมเปญ"โครงการ SME D Scaleup Society"สู่ยุค 4.0


มิติใหม่พลิกโฉมปั้นสตาร์ทอัพเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์ SME D Bank จับมือกรมการค้าต่างประเทศ 4 สถาบันการศึกษาแนวหน้าไทยคลอดแคมเปญ“โครงการ SME D Scaleup Society”สู่ยุค 4.0


 
 
 
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.)หรือSME D Bank มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“โครงการ SME D Scaleup Society”ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศและ4 สถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เพื่อสร้างระบบ Ecosystem ที่เอื้อต่อการเติบโตและพัฒนาสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี โดยเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายระบบการศึกษาเพื่อยกระดับและส่งเสริมเทคโนโลยีนวัตกรรมและสื่อดิจิทัลให้กลุ่มสตาร์ทอัพแจ้งเกิดและขยายกิจการทางธุรกิจ (Scaleup)ไปสู่ความยั่งยืน
 
โดยอาศัยศักยภาพความรู้ความเชี่ยวชาญและเข้มแข็งของแต่ละมหาวิทยาลัยมาช่วยพัฒนา ผ่านกระบวนการบ่มเพาะและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการส่งเสริมการตลาดต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีกรมการค้าต่างประเทศ ที่มีเครือข่ายโครงการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ช่วยสนับสนุนการติดปีกก้าวสู่ตลาดโลกต่อไปและโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว.ให้สามารถดำเนินธุรกิจหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้ ภายใต้แนวความคิดความรู้คู่เงินทุนจากธพว.

 
 
 
 
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.)หรือ SME D Bank กล่าวว่าโครงการเอสเอ็มอีดีสเกลอัพ(SME D Scaleup)ความรู้คู่เงินทุนเป็นโครงการของธพว.ที่เริ่มนำมาใช้ในการพัฒนาผู้ประกอบการผ่านเครือข่ายระบบสถาบันการศึกษาที่นำผู้เชี่ยวชาญแต่ละแห่งมาช่วยพัฒนา ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการนี้ ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยจัดหลักสูตร 1. โครงการ SME D Scaleup ต่อยอดติดปีกธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการสร้างผู้ประกอบการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน
 
2.โครงการ SME D Scaleup ติดปีกธุรกิจยางพาราด้วยนวัตกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ให้สามารถต่อยอดแนวคิดสู่การแปรรูปยางพาราด้วยนวัตกรรมใหม่โดยเกิดผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีศักยภาพ 12 รายการสู่เชิงพาณิชย์ ผู้เข้าอบรม 51 รายสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 43.75 ล้านบาทและต่อยอดการใช้ยางพาราธรรมชาติเพิ่มขึ้น 0.322 ล้านกิโลกรัม จากเดิมใช้ยางพารารวมกันประมาณ 6.45 ล้านกิโลกรัม นับเป็นความสำเร็จในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราสร้างงานสร้างรายได้ต่อยอดธุรกิจกลับคืนสู่ชุมชนต่อไป
 
3.สถาบันเคเอ็กซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดโครงการ SME D Scaleup ติดปีกธุรกิจ SMEs4.0 เพื่อพัฒนาลูกค้าธนาคารโดยกระบวนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่เชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมและมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการจริง และ4.โครงการ SME D Scaleupไอเดียร้อยล้านร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปั้นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่จุดประกายแนวความคิดเปลี่ยนไอเดียธุรกิจสู่เงินล้าน โดยเชื่อมโยงกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจำกัดในการสร้างโอกาสช่องทางการตลาดต่อไป
 
 
 
 
นอกจากนี้ยังมีโครงการ SME D Scaleup เถ้าแก่ 4.0ที่ธนาคารเข้าช่วยต่อยอดติดปีกธุรกิจเงินล้านให้กลุ่มผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักร ทั้งด้านการส่งเสริมการตลาด การสร้างโอกาสค้าขายออนไลน์และการสร้างเรื่องราว(Story)นำเสนอผ่านสื่อมวลชน ซึ่งทุกโครงการล้วนแล้วเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เห็นเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ธนาคารได้นำโครงการ SME D Scaleup ขยายผลเติบโตขึ้นภายใต้โครงการ SME D Scaleup Society ที่มีการลงนาม MOUครั้งนี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จไปสู่ผู้ประกอบการคลัสเตอร์ต่างๆโดยมีแนวทางการดำเนินการดังนี้

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะดำเนินโครงการภายใต้แนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องแกงและเครื่องเทศ โดยพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและศักยภาพของแกงไทยด้วยกระบวนการวิจัยและพัฒนากลุ่มสมุนไพรและเครื่องเทศเพื่อพัฒนาอาหารสุขภาพและแนวคิดพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องแกงไทยสู่ตลาดโลก และโครงการ Hackathon เพื่อปั้นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่นำกระบวนการไอเดียมาสร้างแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพาราตั้งแต่จุดเริ่มต้นสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป

เคเอกซ์ ภายใต้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีแนวคิดที่จะยกระดับเทคโนโลยีในการผลิตของผู้ประกอบการให้มุ่งไปสู่ระบบการผลิต 4.0  โดยเน้นกระบวนการทางเทคนิคอุตสาหการ ระบบอัตโนมัติ ระบบ IOT (Internet of Things) และระบบการใช้หุ่นยนต์ปฏิบัติงาน หรือนำเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดประสิทธิผลดียิ่งขึ้น

มหาวิทยาลัยกรุงเทพมีชื่อเสียงความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์และการสร้างผู้ประกอบการใหม่จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญมาดูแลผู้ประกอบการในกลุ่มชา กาแฟ และผ้าพื้นเมือง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการสร้างองค์ความรู้และโอกาสการขยายธุรกิจโดยปฏิรูปธุรกิจเดิมไปสู่การทำธุรกิจยุคดิจิทัลและเรียนรู้ยุทธศาสตร์การวางแผนธุรกิจสามารถขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศพัฒนาสู่ความยั่งยืนต่อไป

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ จะนำความรู้การบริหารจัดการที่ทันสมัยมาเพิ่มและยกระดับผู้ประกอบการสามารถวิเคราะห์การวางแผนและการจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงเสริมทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยการเรียนรู้เทคนิคและการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ยกระดับประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มโอกาสและร่วมผลักดันด้านการตลาด ติดต่อการค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโครงการ YEN-D Program ที่จะสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program) 4 ประเทศ CLMV คือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่จะมาช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจเติบโตสอดรับกับในวาระที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนจะช่วยส่งเสริมภาคผู้ประกอบการร่วมมือกันใกล้ชิดมากขึ้น

ทั้งนี้โครงการ SME D Scaleup Society เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายภาคีสถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน ภาครัฐและเอกชนที่จะผนึกกำลังผลักดันเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพผ่านกระบวนการบ่มเพาะส่งเสริมเทคโนโลยี นวัตกรรม นำงานวิชาการสู่เชิงพาณิชย์ส่งเสริมการตลาดสู่ตลาดโลก  และในอนาคตจะขยายผลสร้างเครือข่ายความร่วมมือให้กว้างขวางและครอบคลุมการพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆยิ่งขึ้นต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ก.พ. 2562 เวลา : 17:19:41
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 11:43 am