หุ้นทอง
"BSM"ทำกำไรปี2561แตะ60.32 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจ่ายปันผล0.015บาทต่อหุ้น


“บิวเดอสมาร์ท”โชว์งบปี 2561กำไรแกร่ง 60.32 ล้านบาทโต70% พร้อมอวดรายได้รวม 643.85 ล้านบาท โต7.30% ลุยจ่ายปันผล0.015 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่7พ.ค.นี้ พร้อมกางเป้ารายได้ปี2562ทะลุ1,000 ล้านบาท


นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด(มหาชน)หรือBSMเปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในปี2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น70%จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.54 ล้านบาท

โดยบริษัทยังมีรายได้รวมอยู่ที่ 643.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.30% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ของบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาลและตลาดต่างประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวบริษัทมีอัตรากำไรจากการขายขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น31.40%จากในปี2560 มีอัตรากำไรจากการขายขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 29.80% เนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นตราสินค้าของบริษัทส่งผลมีกำไรขั้นต้นสูงเพิ่มสูงขึ้น

อีกทั้งในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่1/2562 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาได้มีมติจ่ายเงินปันผล 0.015 บาทต่อหุ้นและบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 เม.ย. 2562 ณ ห้องริเวอร์ 1 ชั้น 3 ริเวอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ อาคารเอสวีซิตี้ เลขที่ 912 ถนนพระราม 3 กรุงเทพมหานคร เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่  8 พ.ค. 2562 และมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 28 พ.ค. 2562

นอกจากนี้บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2562 จะเติบโตเกิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้จากวัสดุก่อสร้างยังจะสามารถเติบโตได้อีก เช่น กลุ่มงานออฟฟิศ คอนโดมิเนียม โรงแรม และ โรงพยาบาล ประกอบกับจะมีการออกสินค้าใหม่ 2 ตัว ได้แก่ ระบบผนังสำหรับงานคอนโดมิเนียมและประตูบานเลื่อนแบบพับเก็บได้ โดยบริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็นจากธุรกิจหลักธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคุณภาพสูง70% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 30%

“ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม Low-rise ภายใต้แบรนด์ “The Teak” โดยในปี 2562 บริษัทวางแผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่(Pre-sale)โดยเฉลี่ยไตรมาสละ1โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ(CBD: Central Business District)เป็นหลัก ซึ่งจะมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน1กิโลเมตร”นายสัญชัยกล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.พ. 2562 เวลา : 17:07:02
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 2:01 pm