แบงก์-นอนแบงก์
กรุงไทยแนะผู้ประกอบการใช้ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสร้างโอกาสทางธุรกิจ


ธนาคารกรุงไทยชี้การเข้าถึงข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐเกือบ9หมื่นแห่ง ที่ทำได้ง่ายและสะดวกเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของผู้ประกอบการทั่วประเทศ เผยงบประมาณในปีที่ผ่านมามูลค่ากว่า1ล้านล้านบาท ครึ่งหนึ่งเป็นการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-bidding แนะผู้ประกอบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐในพื้นที่ที่สนใจอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาวางแผนกลยุทธ์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน


ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานGlobal Business Development and Strategyธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่าจากการทำบทวิจัยเรื่อง“ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกับโอกาสทางธุรกิจ”พบว่าการที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศเกือบ 90,000หน่วยงานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายนั้น นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ โดยหน่วยงานภาครัฐ จัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Government Procurement ผ่านเว็บไซต์ www.gprocurement.go.th ซึ่งในปีงบประมาณ2561ที่ผ่านมา มีงบในการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่ากว่า1ล้านล้านบาท จำนวนกว่า5ล้านโครงการ

“งบประมาณดังกล่าวเป็นการจัดซื้อจัดจ้างผ่านการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือe-biddingมูลค่ารวมกว่า5แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นประเภทซื้อและจ้างก่อสร้างและเป็นโครงการที่มีขนาดไม่เกิน10ล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับผู้ประกอบการSME อย่างไรก็ตามการที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลความต้องการของหน่วยงานรัฐได้อย่างรวดเร็วและเท่าเทียมกัน ทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อมทางธุรกิจให้มากกว่าคู่เทียบ”

ดร.กิตติพงษ์ เรือนทิพย์ รองผู้อำนวยการฝ่าย สายงาน Global Business Development and Strategyกล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการสามารถวิเคราะห์การแข่งขันในพื้นที่ต่างๆโดยพิจารณาจากข้อมูลผลการจัดซื้อจัดจ้างในอดีตที่ประกาศในเว็บไซต์ www.gprocurement.go.th ด้วยการเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนผู้ขอรับเอกสารการประกวดราคา จำนวนผู้ยื่นเอกสาร ราคากลาง ราคาที่ชนะการประมูล วิเคราะห์จำนวนโครงการและส่วนต่างราคา ย้อนหลังไป 1 ปี เพื่อพิจารณาพื้นที่ที่สนใจรวมทั้งเปรียบทียบข้อมูลกับพื้นที่อื่น

“การดูข้อมูลต่างๆและทำการเปรียบเทียบทำให้ทราบว่าพื้นที่ใดน่าจะมีงานเข้าประมูลเพิ่มขึ้นบ้าง โดยดูได้จากการเติบโตของงบประมาณและจำนวนโครงการ ส่วนความรุนแรงของการแข่งขัน สามารถพิจารณาจากส่วนต่างของราคา ระหว่างราคากลางที่ตั้งไว้ กับราคาที่ชนะการประกวดราคา หากส่วนต่างราคายิ่งมาก เท่ากับการแข่งขันยิ่งสูง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของปริมาณงานหรือเม็ดเงิน ที่สำคัญสามารถนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันประกวดราคางานภาครัฐในครั้งต่อๆไป”

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 มี.ค. 2562 เวลา : 07:41:57
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 6:31 pm