แบงก์-นอนแบงก์
SME D Bank ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรายย่อยปีนี้ 5.72 หมื่นลบ.


SME D Bankตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรายย่อยปีนี้5.72หมื่นล้านบาท ลดหนี้NPLเหลือต่ำกว่า10% ขณะที่"มงคล"เผยผลงานตั้งแต่รับตำแหน่งหนุนรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อ 5.2 หมื่นราย วงเงิน 1.44 แสนล้านบาท รักษาการจ้างงาน5.2แสนคน เพิ่มหน่วยรถม้าเติมทุนใกล้พื้นที่ชุมชนเข้าถึงย่อยมากขึ้น หวังเป็นทางลัดเข้าถึงสินเชื่อ ยกระดับธุรกิจเติบโต

          
 
 
 
 
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือSME Development Bank เปิดเผยว่าในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 57,200 ล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อผ่านสาขา 35,000 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อผ่านรถบริการเคลื่อนที่ 22,200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อได้ 35,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2.86 แสนล้านบาท  ส่วนหนี้เสียหรือNPLธนาคารตั้งเป้าบริหารให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ10 หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีมากกว่าร้อยละ14 หรือ11,000 ล้านบาท โดยจะมีการขายหนี้เสียออกในปีนี้ประมาณ 8,000 ล้านบาท 

 
 
 
 
 
ส่วนแนวนโยบายและแผนงานที่จะส่งมอบงานให้เอ็มดีคนใหม่ นายมงคลกล่าวว่าในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง ธนาคารมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็มพีแอลจำนวน3.7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 40% โดยได้แก้ปัญหาอย่างรอบด้าน เช่น จัดทำระบบถ่วงดุลอำนาจของกระบวนการอำนวยสินเชื่อ ระบบบริหารความเสี่ยง ส่งเสริมองค์กรคุณธรรม ปรับลดวงเงินสินเชื่อใหม่ไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย และยึดบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนามอบความรู้คู่เงินทุนอย่างชัดเจน เป็นต้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นโดยลำดับจนวันที่ 19 มกราคม 2561 คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)หรือซูเปอร์บอร์ด มีมติให้ธพว.เป็นหน่วยงานแรกออกจากแผนฟื้นฟูสำเร็จ
          
 
 
 
 
ทั้งนี้หลังจากที่ธนาคารได้ออกแผนฟื้นฟูก็มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น หลังสำรวจพบว่าผู้ประกอบการรายย่อยถึง 80% ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน และอีก 50% ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีการเดินบัญชีเงินฝาก ไม่มีหลักฐานรับเงินรายได้ จึงคิดว่าไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ดังนั้นทางธนาคารฯจึงได้จัดทำ “หน่วยรถม้าเติมทุน”ขึ้นเพื่อลงพื้นที่ให้บริการด้านสินเชื่อโดยตรงกับผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงชุมชน โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยรถม้าเติมทุน สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ 4 ล้านบาทต่อคันหรือประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน และต่อไปจะลงพื้นที่จอดให้บริการตามสถานีบริการน้ำมัน เทศบาลและที่ทำการไปรษณีย์ เป็นต้น ขณะเดียวกันจะไม่มีการเปิดสาขาของธนาคารเพิ่มเติมที่ขณะนี้มี95 สาขาทั่วประเทศแต่จะเพิ่มหน่วยรถม้าเติมทุนเป็น1,000คันจากเดิมมี 600 คัน
          
 
 
 
 
 
สำหรับผลจากการปรับปรุงการทำงานตั้งแต่ต้นปี 2558ถึงม.ค.2562ที่ผ่านมา ธนาคารสามารถอำนวยสินเชื่อเบิกจ่ายให้ผู้ประกอบการได้กว่า 5.2 หมื่นราย วงเงินกว่า 1.44 แสนล้านบาท รักษาการจ้างงานได้กว่า 5.2 แสนคน สร้างผู้ประกอบการใหม่มากกว่า 1 พันราย ก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 7.2 แสนล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 2.5 แสนล้านบาท และมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากสินเชื่อใหม่นับถึงสิ้นเดือน ธ.ค.2561 เพียง 3.6% ส่วนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ เฉพาะปี 2561 จำนวน 17,666 ราย วงเงิน 36,714 ล้านบาท นอกจากนั้น ธนาคารจัดกิจกรรมเพิ่มความรู้และเสริมการตลาดให้ลูกค้าต่อเนื่อง เช่น สัมมนาความรู้กว่า 540 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกว่า 2.4 หมื่นราย พาผู้ประกอบการกว่า 1,500 รายออกบูธขายสินค้ามากกว่า 100 ครั้ง สร้างรายได้กว่า 225 ล้านบาท ช่วยส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อมวลชนกว่า 290 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 18.5 ล้านบาท และแนะนำผู้ประกอบการขยายตลาดออนไลน์ซึ่งมียอดผู้มองเห็นมากกว่า1.2 ล้าน Reach ต่อเดือน
       
 
 
 
ส่วนแผนงานที่นายมงคลจะส่งมอบให้ผู้บริหารคนใหม่ตลอดจนพนักงานธนาคารคือการมุ่งมั่นยึดบทบาทสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย“จุลเอสเอ็มอี”หรือที่เรียกว่า“คนตัวเล็ก”ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ค้า-แผงค้าในตลาด กลุ่มรถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ FoodTruck + รถพุ่มพวง โชห่วย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น ซึ่งมีกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้ความสามารถทางธุรกิจต่ำมาก เพราะเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือจากภาครัฐ ส่วนรายระดับกลางที่ปรับตัวได้ดีสามารถเข้าถึงมาตรการสนับสนุนภาครัฐได้ด้วยช่วยให้มีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นไปอีกทำให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำ
          
นอกจากนี้จะมุ่งพัฒนาธนาคารฯเป็นอีแบงก์กิ้งแบบเต็มรูปแบบ เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ดังนั้นธนาคารจึงกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานด้วยการมอบ “3เติม”ผ่านกระบวนการ “3D”กล่าวคือ3เติม ได้แก่ 1.เติมทักษะให้ความรู้เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ 2.เติมทุนด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน บุคคลธรรมดาปีที่ 1-3 เพียง 0.42% ต่อเดือน และนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-3 เพียง 0.25% ต่อเดือน และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 จากกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1% ต่อปี เป็นต้น และ 3.เติมคุณภาพชีวิต พาเข้าถึงสิทธิ์ประโยชน์และสวัสดิการภาครัฐ สร้างความมั่นคงในอาชีพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น  
         
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้มอบหมายให้ "นายพงชาญ สำเภาเงิน" เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนากลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ ไปจนกว่ากระบวนการสรรหาเอ็มดีคนใหม่จะเสร็จ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 มี.ค. 2562 เวลา : 17:01:31
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 10:45 pm