แบงก์-นอนแบงก์
ธ.กรุงศรีตั้งเป้าสินเชื่อธุรกิจปี 62 โต6.2%


กรุงศรีฯตั้งเป้าสินเชื่อธุรกิจปีนี้เติบโต6.2% มั่นใจหลังเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่การลงทุนจะเพิ่มมากขึ้น  ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ตั้งเป้าปีนี้โต8% เน้นให้บริการลูกค้าครบวงจร

 

          

 
นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจซึ่งรวมทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในปี 2562เติบโต 6.2% หรือจาก 6.49 แสนล้านบาทในปีก่อนเป็น 6.89 แสนล้านบาทจากยอดคงค้างสินเชื่อรวมของธนาคารที่ 1.67 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ 25% สินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม 15% สินเชื่อลูกค้าญี่ปุ่นและนานาชาติ 12% และสินเชื่อรายย่อย 48%
 
 
 
 
เนื่องจากความต้องการใช้สินเชื่อของผู้ประกอบการรายใหญ่และเอสเอ็มอีในปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังการเลือกตั้งที่จะมีรัฐบาลใหม่และมีความชัดเจนในการดำเนินนโยบายต่างๆ  ขณะเดียวกันธนาคารตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของกลุ่มเป็น 40% จากปัจจุบันที่ 30% ภายใน 2 ปี 
       
 
 
        
นางเมธินี จงสฤษดิ์หวัง  ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยากล่าวว่าในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ได้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อปีนี้เติบโต8% หรือยอดสินเชื่อคงค้างจาก 378,000 ล้านบาท ในปี 61 มาอยู่ที่ 408,000 ล้านบาทในปีนี้  โดยมีแนวทางในการดูแลลูกค้า 3 ด้านคือ สนับสนุนการให้สินเชื่อเพื่อการเติบโตและขยายธุรกิจด้วยบริการครบรูปแบบ รวมถึงให้บริการโซลูชั่นทางการเงินแบบครบวงจรเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจและช่วงการเติบโตของธุรกิจของลูกค้าพร้อมทั้งสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับ MUFG และพัฒนาบริการที่มีประสิทธิภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทันทีผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม รวมทั้งนวัตกรรมทางการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ช่วยในการดำเนินงานและบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้าธุรกิจ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ของกลุ่มธุรกิจรายใหญ่อยู่ที่1.4% ต่ำกว่าระบบค่อนข้างมาก
          
 
 
ด้านเงินฝากนั้นธนาคารตั้งเป้าหมายเงินฝากเติบโต19% จาก 77,000 ล้านบาทในปี 61 มาอยู่ที่ 91,000 ล้านบาทในปีนี้ โดยจะเน้นขยายเงินฝากในกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ซึ่งมีเงินฝากสำรองในบัญชีไว้ประมาณรายละ 50-100 ล้านบาท สำหรับความต้องการใช้สินเชื่อของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมายังมีทิศทางที่ดี แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังทรงตัว แต่หลังจากการเลือกตั้งเชื่อว่าจะมีความต้องการใช้สินเชื่อมากขึ้น  

 
 
 
โดยที่บริการอื่นๆที่ธนาคารจะนำเสนอเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในด้านการเงินต่อการทำธุรกิจของลูกค้า  เช่น บริการด้าน Transaction Banking บริการด้าน Digital Platform บริการด้านประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน บริการด้านการเป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ รวมถึงการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในการขยายการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งการเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) และจับคู่ทางธุรกิจเพื่อร่วมทุน

ส่วนการเป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ปีนี้ธนาคารคาดว่า จะก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ จากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่อันดับ 3 โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 12-13% รองจากธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพ  ซึ่งในช่วงต้นปีธนาคารได้เป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของผู้ประกอบการรายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ และกลุ่มไมเนอร์ กรุ๊ป และคาดว่ามูลค่าการเป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในปีนี้จะมีมูลค่าสูงกว่าปีก่อนที่ 1.07 แสนล้านบาท เนื่องจากยังมองเห็นแนวโน้มความต้องการออกหุ้นกู้ของผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อเป็นการล็อคต้นทุนทางการเงิน ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น
 

LastUpdate 19/03/2562 18:44:47 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 6:14 pm