แบงก์-นอนแบงก์
ธ.กรุงศรีฯลุยขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอีญี่ปุ่น100 บริษัทในไทย


แบงก์กรุงศรีฯประกาศขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในไทยเพิ่ม 100 รายภายในสิ้นปีนี้ หวังสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อการค้าระหว่างประเทศปีนี้ 7,000 ล้านบาท

          
 
 
 
 
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แผนงานปีนี้เน้นธุรกรรมระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมระดับโลกของMUFGโดยจะเริ่มจากเอสเอ็มอีที่ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นและเอสเอ็มอีสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ลูกค้าจะสามารถทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระยะเวลาที่สั้นลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ การที่ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายของMUFGและกรุงศรีฯจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ด้านการค้าระหว่างประเทศ 7,000ล้านบาทจากปีก่อนอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท คาดว่ารายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนปีนี้โต 24% จากปีที่แล้วที่โต 22%
          
 
 
 
สำหรับแนวทางในการให้สินเชื่อกับลูกค้าเน้นเสนอวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจและความสามารถในการชำระเงิน ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อคุณภาพของสินทรัพย์ โดยสนับสนุนเอสเอ็มอีในการต่อยอดธุรกิจด้วยพลังความคิดและเครือข่ายผ่านบริการ Krungsri SME Business Empowerment ด้วยการให้ความรู้และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ  นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนา ดิจิทัล อีโคซิสเต็ม (DigitalEcosystem)สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทั้งในด้านการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมทางการเงินอีกด้วย
          
 
 
 
 
ส่วนสินเชื่อปล่อยใหม่เอสเอ็มอีในปีนี้ตั้งไว้ 80,000 ล้านบาท หรือเติบโต 2% พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 250,000 ล้านบาท โดยยอดปล่อยสินเชื่อในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมายังเติบเติบโตต่อเนื่องกระจายไปยังกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก-ค้าส่ง และการผลิต ส่วนเงินฝากเติบโตที่ 6.2% และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.8% ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายฐานลูกค้าเอ็มอีญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยประมาณ 100 ราย ภายในปีนี้จากทั้งหมด 2,800 รายที่ยังไม่เคยใช้บริการของแบงก์มาก่อน ซึ่งสัดส่วนรายได้ของเอสเอ็มอีอยู่ 12% ของรายได้รวมทั้งหมด

ทั้งนี้ในปี 2561 กลุ่มธุรกิจSME ขนาดกลางและขนาดเล็กของกรุงศรี มีพอร์ตเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี เติบโต 16.6% สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม ด้วยปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อใหม่ สินเชื่อซัพพลายเชนและสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่เงินฝากต้นทุนต่ำ (Low-cost CASA) และค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน มีการเติบโตสูงมาก ขณะที่ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 2561 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีได้ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.8% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าอุตสากรรมโดยรวม ผลงานที่โดดเด่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกรุงศรี กรุ๊ป และการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังได้ประโยชน์จากการที่มีเครือข่ายทั่วโลกของ MUFG ทำให้สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก
          
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 มี.ค. 2562 เวลา : 16:21:14
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 8:48 pm