เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.ไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์ "สงครามการค้ายกระดับ : endgame จะลงเอยอย่างไร?"


 ·   สงครามการค้ายกระดับขึ้น แต่เรายังคงเชื่อว่าจะไม่เกิดสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนจะแย่ลงมากหากเกิดสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ในช่วงสั้นจะได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจากคะแนนนิยมทางการเมืองที่มากขึ้น แต่ในระยะยาวสหรัฐจะเสียประโยชน์มากขึ้น ดังนั้นสหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มที่จะยุติสงครามการค้าเมื่อเวลาผ่านไป 

 

·     เราเชื่อว่ามีโอกาส 50ที่ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันในที่ประชุม G-20 โดยจีนจะยินยอมแก้ไขกฎหมายเพื่อบังคับใช้ประเด็นสำคัญๆ เช่น สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา การบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และการเปิดเสรีภาคบริการ ในขณะที่สหรัฐฯ จะยินยอมลดภาษีนำเข้าที่ประกาศไปเมื่อไม่นานนี้ลง ในขณะที่มองว่ามีความเป็นไปได้ 20ที่จะเกิดสถานการณ์กลางๆ (Moderate case) คือทั้งสองฝ่ายไม่ได้ขึ้นหรือลดภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่ประกาศไปแล้ว กรณีสุดท้าย เป็นสถานการณ์รุนแรง (Severe case) (ความเป็นไปได้ 30%) ที่สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 25ตามคำขู่

 

 

·     เราวิเคราะห์ผลกระทบของสงครามการค้าต่อสินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การดูแลของ SCBS ตลาดหุ้น: เราเชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อในกรณีกลางๆ รวมถึงกรณีรุนแรง แต่ความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นมีจำกัด เนื่องจาก valuation ปัจจุบันไม่แพง อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธ. กลางสหรัฐ (เฟด): เราเชื่อว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไว้ ยกเว้นในกรณีรุนแรงที่เฟดจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 50 bps เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ: ในกรณีพื้นฐาน ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นกับพันธบัตรระยะยาวจะฟื้นตัวดีขึ้น ในกรณีกลางๆ ผลตอบแทนพันธบัตรจะทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบัน แต่จะลดลงอย่างมากในกรณีรุนแรง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์: เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำจะลดลงในกรณีกลางๆ และกรณีรุนแรง แต่คาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงมากกว่าราคาทองคำ เนื่องจากราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับกิจกรรรมทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ราคาทองคำถูกจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

สงครามการค้ายกระดับความร้อนแรงมากขึ้น - อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ 25ตามคำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์ ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ทางการจีนออกมากล่าวว่าจีนจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะปรับขึ้นสู่ 10%, 20% และ 25จากระดับปัจจุบันที่ 5และ 10เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. และในวันเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงก็มีแผนที่จะเจรจากันนอกรอบการประชุม G-20 ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 พ.ค. 2562 เวลา : 20:18:15
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 2:47 pm