แบงก์-นอนแบงก์
บลจ.ไทยพาณิชย์จับมือคณะบริหารธุรกิจและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สร้างนักเทคโนโลยีการเงินรับยุค disruptive


บลจ.ไทยพาณิชย์จับมือคณะบริหารธุรกิจและคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดตัวโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเงินและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มุ่งสร้างนักเทคโนโลยีการเงินรับยุค disruptive


นายณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เดินหน้าสร้างบลจ.ไทยพาณิชย์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าและงอกงามด้วยวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และปฏิบัติได้อย่างแท้จริง โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับคณะบริหารธุรกิจ ภาควิชาการเงินและการธนาคารและคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดทำโครงการพัฒนาองค์กรความรู้ด้านการเงินและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (CMU - SCBAM Machine Learning: Application for Smart Investment) สร้างโอกาสเรียนรู้ในสภาพการปฏิบัติงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในบริบทการเงินโลก

โดยโครงการนี้จัดการเรียนรู้แบบ project based learning บูรณาการองค์ความรู้ด้านการเงินเข้ากับความรู้ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ถือเป็นความสอดคล้องกับหลักการสร้างทักษะให้แก่ผู้เรียนเพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมปัจจุบัน ซึ่งการจัดการความร่วมมือในโครงการดังกล่าวสำหรับภาควิชาการเงินและการธนาคาร คณะบริหารธุรกิจจะมีบทบาทเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านการเงินการธนาคารและภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์จะมีบทบาทความร่วมมือด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยี Machine Learning และ Big Dataจะเป็นเครื่องมือหลักที่จะร่วมกันใช้เพื่อบ่มเพาะนักการเงินและวิศวกรคอมพิวเตอร์ในโครงการและในส่วนของบลจ.ไทยพาณิชย์จะมีบทบาทในการวิเคราะห์การลงทุน สนับสนุนข้อมูลและความเชี่ยวชาญในเชิงวิชาชีพ

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวในขั้นแรกได้แก่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Machine Learning ในการพัฒนาดัชนีชี้วัดความยั่งยืน(ESG Index)ครอบคลุมดัชนีที่มีมิติวัดสามประเด็นหลักของความยั่งยืน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environment Social และ Governance) ซึ่งโครงการแรกนี้จะเป็นโครงการวิจัยการพัฒนาการประเมินความยั่งยืนและระดับ ESG ของบริษัทจดทะเบียนที่สามารถส่งผลต่อผลการดำเนินงานที่ดีแก่บริษัท โครงการดังกล่าวจะมีนักศึกษาภาควิชาการเงินและการธนาคารชั้นปีที่ 3 รวมทั้งนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ร่วมศึกษาการประเมินความยั่งยืน การให้คะแนน ESG ของบริษัทจดทะเบียน โดยมุ่งเน้นที่บริษัทขนาดกลางและเล็กซึ่งอาศัยข้อมูลจากการสอบถามบริษัทจดทะเบียน งบการเงินหรือใช้ machine learning เข้ามาช่วยเพื่อความสมบูรณ์และความครอบคลุมให้มากที่สุด สำหรับการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และทดสอบก่อนนำมาใช้งานจริงนั้นได้กำหนดกรอบเวลาสิ้นสุดโครงการประมาณช่วงสิ้นปีและจะจัดให้มีการวัดประสิทธิภาพของข้อมูลในการลงทุน โดยกลุ่มที่ได้รับผลตอบแทนจากการทดสอบการลงทุนย้อนหลัง(Back Test)สูงที่สุดจะได้รางวัลด้วยการเปิดโอกาสให้เข้าร่วมฝึกงานกับบลจ.ไทยพาณิชย์และนักศึกษาทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมจะได้รับใบประกาศนียบัตรด้วย

“บลจ.ไทยพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งอาศัยความสามารถในการคำนวณ ประมวลผลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพของสมองกลมาใช้ในการวิเคราะห์หาปัจจัยในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha)ในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของบลจ.อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บลจ.ยังเล็งเห็นว่าการลงทุนอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้ในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันแนวทางการลงทุนที่มีการพิจารณาถึงปัจจัย ESG เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากข้อมูลการลงทุนของ UN Principles for Responsible Investment (UNPRI)ในระหว่างปี ค.ศ.1995 - 2017 แสดงให้เห็นว่าสมาชิก PRI จากทั่วโลกได้มีการนำเงินไปลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยดูจากมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทเหล่านี้ที่เติบโตขึ้นกว่า 10 เท่าจากประมาณ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมูลค่าประมาณ 65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “ นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้รองศาสตราจารย์ ดร.สิริวุฒิ บูรณพิร คณบดีคณะบริหารธุรกิจกล่าวถึงการดำเนินโครงการในครั้งนี้ว่า”พัฒนาการแบบเปลี่ยนแปลงฉับพลันหรือที่เรียกว่าdisruptiveจะส่งผลชัดเจนต่อวงการธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการปรับตัว ขยายองค์ความรู้สู่ขอบเขตใหม่ๆที่จะเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน ความท้าทายของคณะฯคือการสร้างบุคลากรที่มีทักษะในเชิงบูรณาการเทคโนโลยีสู่การทำงานปกติ”

ด้านผู้ช่วยศาสาสตราจารย์ ดร.ณัฐ วรยศ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้รับบทบาทจัดการความร่วมมือทางเทคโนโลยี กล่าวว่า“คณะวิศวกรรมศาสตร์มีแนวทางในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีการดำเนินงานเกี่ยวข้อง สนับสนุนวิชาการข้ามสาขาอย่างต่อเนื่อง ความรู้ทางวิศวกรรมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยี Machine Learningและ Big Dataจะเป็นเครื่องมือหลักที่คณะทำงานจะร่วมกันใช้เพื่อบ่มเพาะนักการเงินและวิศวกรคอมพิวเตอร์ในโครงการ”

LastUpdate 27/05/2562 14:38:06 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 6:43 am