ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเครื่องดื่มของไทยยังคงเติบโตอยู่ในระดับทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยยังชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยในสินค้าที่จำเป็นตามไปด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องดื่มต้องออกมาปรับกลยุทธ์ เพื่อกู้ยอดขายด้วยการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น
สำหรับสินค้าใหม่ที่ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องดื่มให้ความสนใจ คือ เครื่องดื่มในกลุ่มเพื่อสุขภาพเนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการตลาดเครื่องดื่มจึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเครื่องดื่มใหม่กลุ่มดังกล่าว เริ่มจากบริษัทเจนเนอรัล เบฟเวอเรจ จำกัดที่ออกมาเปิดตัวน้ำมะพร้าวรสชาติใหม่ที่มาพร้อมคุณประโยชน์เข้าทำตลาด
นายพงศกร พงษ์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มแบรนด์อีฟ, วิตอะเดย์,ไทยเทและดีเสิร์ตโตะ กล่าวว่าบริษัทได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวภายใต้แบรนด์ อีฟ รสชาติใหม่เข้ามาทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ Coconut Plus Series ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำมะพร้าวพลัสชิ้นเนื้อ,น้ำมะพร้าวพลัสคอลลาเจน และน้ำมะพร้าวพลัสสมุนไพรขิง
ในส่วนของกลยุทธ์การตลาดที่จะนำมาใช้ในครั้งนี้ คือการใช้ Key Messageหลักของแบรนด์ อีฟ คือ Everyone #drinkif ที่ต้องการเน้นย้ำว่าผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยสามารถดื่ม IF น้ำมะพร้าวแท้ 100%ได้ ด้วยการวางตำแหน่งอีฟไว้ในใจของผู้บริโภคให้เป็นเหมือนจุดเชื่อมความสัมพันธ์ทุกเจเนอเรชั่นมีความแตกต่างที่นอกเหนือจากคุณภาพของวัตถุดิบซึ่งมาจากแหล่งที่ดีที่สุดทำให้รสชาติมีความเฉพาะรวมไปถึงวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากลและได้รับการการันตีจากสถาบันรับรองรสชาติอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ iTQi
นอกจากนี้บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอเรจยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ดีป(DEEP)เข้ามาทำตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ Natural Booster ในรูปแบบของShotที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ โดยเน้นสมุนไพรขิงเป็นส่วนประกอบหลัก และมีส่วนประกอบอื่นๆคือ Ginger with Turmeric สมุนไพรขิงกับขมิ้น,Ginger with Prune สมุนไพรขิงและพรุน ตามด้วย Ginger with Collagen สมุนไพรขิงและคอลลาเจนบำรุงผิวเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพ ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาด บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอเรจ มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ขณะเดียวกันเครือเฮอริเทจก็ออกมาตอกย้ำการทำตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมพิสทาชิโอ แบรนด์ซันคิสท์ เข้าทำตลาดด้วยการชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเพียวๆโดยไม่ได้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติออกมาวางจำหน่ายในรูปแบบของสูตรไม่เติมน้ำตาลในราคาเพียง 20 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าแบรนด์อื่นๆที่อยู่ในตลาด โดยปัจจุบันนมพิสทาชิโอแบรนด์ซันคิสท์มีวางจำหน่ายแล้ว 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินอลและสูตรไม่เติมน้ำตาล ในกล่องขนาด 180 มิลลิลิตร ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ
นายวิทวัส พลไพศาล รองประธานกรรมการ เครือเฮอริเทจ กล่าวว่าเทรนด์รักสุขภาพในขณะนี้กำลังมาแรงเนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใส่ใจและเริ่มดูแลตัวเองกันมากขึ้นส่งผลให้ตลาดสแน็คและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลวิจัยตลาดโลกคาดการณ์ว่าตลาดสแน็คเพื่อสุขภาพจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 40,699 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2569ในขณะที่ประเทศไทยก็รับเอาเทรนด์รักสุขภาพเข้ามามากขึ้น เห็นได้จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่กล้าตัดสินใจและลงทุนเลือกซื้อสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายเติบโตสูงขึ้น
ด้านนายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด(มหาชน)ผู้นำตลาดน้ำผลไม้และผู้ส่งออกผลไม้แปรรูป กล่าวว่าในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมมูลค่า 4,500 ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 30% บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้สิ้นปี 2562 นี้มีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากปี 2561ที่มีรายได้ประมาณ 4,900 ล้านบาท
ล่าสุดทิปโก้ได้ขยายไลน์เครื่องดื่มใหม่ด้วยการพัฒนาน้ำสับประรดพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์หอมสุวรรณ ซึ่งเป็นผลผลิตที่ได้จากไร่ของทิปโก้เข้าทำตลาดใน 2 รูปแบบ คือ กล่องยูเอชทีและชนิดขวดแก้วควบคู่ไปกับการพัฒนาน้ำแตงโมพร้อมดื่มเข้าทำตลาด ซึ่งนอกจากจะทำตลาดในประเทศแล้วยังมีแผนที่จะขยายตลาดสินค้าดังกล่าวไปในต่างประเทศอีกด้วย
ส่วนอิชิตัน กรุ๊ป เตรียมส่ง“อิชิตัน หวัง”ผลิตภัณฑ์น้ำนมมะพร้าวจากธรรมชาติลุยตลาดจีนควบคู่ไปกับการรับจ้างผลิตเครื่องดื่ม (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นๆเพื่อให้สิ้นปี 2562 นี้ มีรายได้รวมมุ่งสู่ 5,216.2 ล้านบาท
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าแผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งปีนี้จะเน้นไปที่กลุ่มประเทศCLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) และอินโดนีเซีย ภายหลังส่งเครื่องดื่มเข้าไปทำตลาดและได้ผลการตอบรับที่ดีด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้ชื่อ“อิชิตัน หวัง”ผลิตภัณฑ์น้ำนมมะพร้าวธรรมชาติเข้ามาทำตลาด เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนและส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศจีน เพราะปัจจุบันน้ำนมมะพร้าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน
สำหรับจุดเด่นของน้ำมะพร้าว“อิชิตัน หวัง” คือการเป็นน้ำนมมะพร้าวจากธรรมชาติคัดสรรมะพร้าวกะทิชั้นดีจากแหล่งมะพร้าวที่ดีที่สุดของเมืองไทยคั้นเป็นนมมะพร้าวรสชาติเข้มข้นหอมมัน อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายหลากหลายชนิด
นอกจากนี้ยังจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เด่นๆทั้งที่เป็นแบรนด์ของอิชิตันและผลิตภัณฑ์ที่รับเป็นผู้ผลิต (OEM) เพื่อตอกย้ำความพร้อมการเป็นผู้ผลิตสินค้า OEM ที่มีเทคโนโลยีที่สามารถผลิตเครื่องดื่มได้หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะชาพร้อมดื่มแต่รวมไปถึงน้ำมะพร้าว น้ำผลไม้ เครื่องดื่มให้พลังงาน กาแฟ ซีเรียลดริงค์และนมถั่วเหลือง เป็นต้น ซึ่งในส่วนของธุรกิจ OEM อิชิตัน กรุ๊ป คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท
ออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่คึกคักแบบนี้ สิ้นปี 2562 ตลาดรวมเครื่องดื่มมีโอกาสกลับมาเติบโตเป็นบวกแบบเห็นๆ
ข่าวเด่น