น้อยคนนักจะเชื่อว่าสาวสุดเฉี่ยวเปรี้ยวเข็ดฟันคนนี้อยู่ในวัย 50 กะรัตเข้าไปแล้ว รูปร่างของเธอ "เซียะ" กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือแม้แต่สาวรุ่นบางคนก็ยังเทียบหุ่นไม่ติด หากจ้องมองเข้าไปในดวงตา มั่นใจว่าคู่สนทนากับเธอก็จะได้รับคลื่นพลังบวกอย่างน่าอัศจรรย์ หญิงเก่งแห่งวงการประกันชีวิตไทยคนนี้ ต้องมีเคล็ดลับพิเศษกว่าใคร นั่นทำให้หลายคนอยากรู้และหวังที่จะนำแนวคิดหรือวิธีการดูแลตัวเองไปปรับใช้บ้าง  ซึ่ง "พัชรา ทวีชัยวัฒนะ" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ก็พร้อมเปิดเผยทุกแง่มุมให้ทุกคนได้รู้จักตัวตน เตรียมพร้อมการเดินทางสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต นั่นคือการส่งมอบแรงบันดาลใจและพลังบวกให้กับสังคม ผ่านบทบาทหน้าที่ผู้บริหารควบคู่ไปกับหัวใจผู้ให้ของเธอเอง

"พัชรา ทวีชัยวัฒนะ" สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์มากมาย ทั้งผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโปรเจคต่างๆ ของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และการปรากฏตัวเบื้องหน้าในภาพยนตร์โฆษณา "เพราะถ้าคุณสู้ เราถึงจะสู้ไปกับคุณ" ที่เป็นไวรัลทุบสถิติหนึ่งล้านวิวใน 1 วัน ทำให้ทุกคนจดจำบริษัทประกันชีวิตแห่งนี้ด้วยภาพลักษณ์ที่สื่อสารด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมา และผู้บริหารสาววัย 53 คนนี้คือตัวอย่างพิสูจน์สัจธรรมที่ว่า "ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่มีทางลัด" อย่างแท้จริง

เส้นทางการทำงานนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ พัชราต้องใช้ความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างยิ่งในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานจากบริษัทโฆษณา สั่งสมภูมิรู้จากงานการตลาดบริษัทข้ามชาติ หรือแม้กระทั่งเปิดโลกการทำงานในต่างประเทศรวมแล้วเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ก่อนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรประกันชีวิตระดับประเทศแห่งนี้กว่า 12 ปีแล้ว ซึ่งตลอดเส้นทางการเดินทางอย่างยาวนานนี้ พัชราค้นพบและตระหนักว่า หัวใจของความสำเร็จในการทำงานและชีวิต คือร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรง

"เมื่อก่อนเราก็เหมือนคนทั่วไปที่ออกกำลังกายบ้าง ขี้เกียจบ้าง ไม่ได้จริงจัง แต่ 5 ปีที่ผ่านมา เราอยากจริงจังกับเรื่องนี้ จึงจ้างเทรนเนอร์มาช่วยฝึก พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง และด้วยความเป็นคนจริงจัง ชัดเจนอยู่แล้ว รู้ตัวว่าเราชอบกิจกรรมที่ต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ รู้สึกภูมิใจที่ได้แข่งขันกับตัวเอง ดังนั้นการเล่นเวทเข้ายิมเพื่อฟิตรูปร่าง สร้างซิกซ์แพค คือเป้าหมายที่เราต้องมุ่งไปคว้ามาให้ได้ และการเข้าร่วมประกวดเพาะกายเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ช่วยพิสูจน์ความกล้าทะลุกรอบหรือขีดจำกัดของตัวเองได้ จากนั้นเมื่อได้ออกกำลังต่อเนื่องก็เหมือนร่างกายมีพลัง รู้สึกเฟรช รู้สึกดีเวลาคุยกับใครก็มีเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์ระหว่างกัน"

แม้จะไม่ได้คว้ารางวัลจากเวทีเพาะกายมานอนกอดแต่อย่างใด แต่พัชรา ผู้มาพร้อมกับบุคลิกสุดสมาร์ทและความคิดเฉียบคม กลับรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น ขั้นตอนการฟิตหุ่น วิธีโพสต์ต่อหน้ากรรมการ และสังคมใหม่ที่ได้จากกิจกรรมสุดท้าทายนี้ พร้อมสานต่อให้เกิดเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ไปมากกว่าเดิม เธอตั้งใจจะลงประกวดเพาะกายอีกครั้งในวัย 60 ปีให้ได้ ซึ่งเหตุผลนั้นไม่ใช่ตามกระแส #10yearschallenge ที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ แต่เพื่อเป็นตัวอย่างยืนยันว่ามนุษย์มีศักยภาพ และอายุไม่ใช่ข้ออ้างในการลงมือทำ

พัชราดูแลตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมเสมอมาด้วยเทคนิคการสร้างความสมดุลชีวิตทั้งการออกกำลังกายอย่างจริงจัง รับพฤติกรรมการกิน นอกจากนั้นเธอยังฝึกจิตวิปัสสนาอย่างเข้มงวดและเอาจริงเอาจังอย่างมาก ซึ่งล่าสุดผู้บริหารสาวได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมสายอาจารย์โกเอ็นก้าเป็นระยะเวลานานกว่า 45 วันเลยทีเดียว

"ตื่นเช้ามาก็จะนั่งสมาธิ ออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมง ทำงานเต็มที่ กลับมานั่งสมาธิ แล้วก็นอน นี่คือกิจวัตรที่เป็นขุมพลังทำให้เกิด Productivity ในการทำงาน ตลอดชีวิตการทำงานมานี้แทบไม่เคยลาป่วย จะมีก็เพียงลาพักร้อนเพื่อไปท่องเที่ยวและปฏิบัติธรรมเท่านั้น การได้อยู่กับตัวเองเหมือนการเติมพลังเพื่อขับเคลื่อนตัวเองให้เดินต่อ ประกอบกับเรามีโอกาสเข้าคอร์สพัฒนาตนเองบ้าง ก็ตระหนักว่าทุกคนเปลี่ยนแปลงได้ ทุกคนมีศักยภาพ มีคุณค่า ไม่มีความล้มเหลวมีแต่การเรียนรู้ ขณะเดียวกันก็ทำให้เราเข้าใจคนอื่นๆ ว่าต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน เหตุผลของการกระทำไม่เหมือนกัน ซึ่งเหตุผลนั้นเป็นคุณสมบัติที่เราควรเรียนรู้เพื่อดึงมาใช้อย่างถูกที่ถูกเวลา และการมีเป้าหมาย ไม่ใช่กิเลส แต่คือความพยายามในทางที่ถูกต้องเพื่อจะขับเคลื่อนตัวเราให้ประสบความสำเร็จและเป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้นได้"

เมื่อการพัฒนาตัวเองรอบด้านอย่างไม่หยุดยั้ง บวกกับอุปนิสัยเอาจริงเอาจัง ตั้งเป้าหมายชัดเจน และพยายามทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้เป็นทุนเดิม ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้พัชราสามารถส่งต่อเป็นเชื้อไฟในการคิดสร้างสรรค์งาน ประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์กรและกุมหัวใจผู้ร่วมงาน จวบจนปัจจุบันพัชราก็ยังไม่หยุดฝัน เธอตั้งมั่นจะเป็น "ผู้รับฟังและที่ปรึกษา" พัฒนาตนเองเพื่อเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตให้ผู้อื่น ซึ่งสอดรับกับแนวคิดของอลิอันซ์ อยุธยา ในปีนี้คือ Explore the best in you กล้าทำสิ่งใหม่ๆ  โดยมุ่งให้ทุกคนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีแล้วผ่านแพล็ตฟอร์ม Healthy Living ปัจจุบันนอกจากคอนเท้นต์และเซอร์วิสที่พร้อมสนับสนุนและเคียงคู่ลูกค้าและฐานสมาชิกผู้สนใจกว่า 70,000 รายแล้ว เป้าหมายต่อไปคือการสร้างคอมมิวนิตี้นี้ให้แข็งแกร่ง และเพิ่มชุมชนนี้ถึง 1 แสนรายให้ได้

"เป้าหมายส่วนตัวที่วางไว้ในปีนี้ คือการทำหน้าที่โค้ชให้คนอื่นมีความสุข อยากให้คนมีความสุขทั้งกายและใจ อาจจะชวนเขามานั่งคุยสัก 1-2 ชั่วโมง ให้เขารู้ว่าควรวางใจอย่างไรให้ถูก โดยไม่ใช้การชี้นำหรือตัดสิน แต่จะช่วยรับฟัง และช่วยหาทางออก ซึ่งต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เราฟังกันอย่างตั้งใจน้อยลง จึงเป็นเรื่องดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม กับการสร้างทัศนคติมีความสุขกับการมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มจากคนใกล้ชิดก่อน สมาชิกกลุ่มเล็กๆ 4-5 คนที่จะต้องมาเล่าให้ฟังว่าออกกำลังกายแบบไหน ใช้เวลาเท่าไร มีพฤติกรรมอย่างไรในแต่ละวันกันอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ใช่แค่การรับฟัง แต่ลงมือจัดการอย่างจริงจัง จัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดเจน" นี่คือปณิธานของผู้บริหารสาวคนเก่ง เธอเผยความปรารถนาอันแรงกล้าออกมา พร้อมด้วยแววตาเปี่ยมพลังและความมุ่งมั่นหวังผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นเดิม