'ลอมบาร์ด โอเดียร์'ประเมินสิ้นปีเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าหลุด 30.00 บาทต่อดอลลาร์ แตะที่ 28.50-29.00 บาทต่อดอลล์ เหตุไทยพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง รับส่งออกกระทบแต่การลงทุนได้รับผลดี โดยเฉพาะโครงการอีอีซี
นายโฮมิน ลี Head of Portfolio Solutions Asia, Asia Macro Strategist, Lombard Odier เปิดเผยในงานสัมมนาไพรเวท แบงก์กิ้ง จัดโดยธนาคารกสิกรไทย ว่าทิศทางค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าได้อีก โดยมีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก 2-3%จากระดับปัจจุบัน ในปีนี้ทำให้เงินบาทจะแข็งค่าสขึ้นแตะระดับ 28.50-29.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นว่าเงินบาทของไทยเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่องในระดับ6% ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในเงินบาท
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์สหรัฐก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%
ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะทำให้ไทยมีโอกาสในการขยายการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อีอีซี ซึ่งจะสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับประเทศในอนาคตเพราะต้นทุนการก่อสร้างที่ถูกลง
นายสเตฟาน โมเนียร์ Chief Invesment Officer , Lombard Odier Private Bank เปิดเผยว่าในช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงสุดท้ายของวัฎจักรเศรษฐกิจที่เติบโต มุมมองด้านการลงทุนนั้น นักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และจัดพอร์ตการลงทุน โดยแบ่งเป็น 40% ลงทุนในหุ้น เพราะยังสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง อีก 40% ลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตร ซึ่งแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในระยะยาว เพราะจะได้ทั้งดอกเบี้ยและกำไรจากส่วนต่าง และอีก 20% จัดสรรสำหรับการลงทุนทางเลือกหรือ Alternative Investment เช่นการลงทุนในทองคำ ซึ่งที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หรือการลงทุนในสกุลเงินที่ได้รับผลจากการเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ข่าวเด่น