แบงก์-นอนแบงก์
EXIM BANK สนับสนุนผู้ส่งออกไทยรุกตลาดอินเดียอย่างมั่นใจ


EXIM BANK สนับสนุนผู้ส่งออกไทยรุกตลาดอินเดียอย่างมั่นใจ ใช้เครื่องมือทางการเงินเจาะตลาดและขยายธุรกิจใหม่ๆในแต่ละรัฐ


 
 
 
 
 
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวในงานสัมมนา “อินเดีย : หน้าต่างแห่งโอกาส (India : The Window of Opportunities)” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ผู้ประกอบการไทยควรต้องบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศควบคู่กับการแสวงหาโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ โดยทางเลือกหนึ่งคือ การขยายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ อินเดีย ซึ่งมีศักยภาพด้านขนาดพื้นที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประชากรอินเดียทำให้เกิดความต้องการในการบริโภคที่หลากหลาย

นายอดุลย์ กล่าวว่า ในการเจาะตลาดอินเดียให้ประสบความสำเร็จผู้ประกอบการไทยต้องเข้าใจความหลากหลายของอินเดียและดำเนินกลยุทธ์การตลาดโดยสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรัฐ อาทิ รัฐมหาราษฏระ มีมุมไบเป็นเมืองหลวง มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจอินเดียมากที่สุด ผู้ประกอบการไทยควรเจาะตลาดกลุ่มชนชั้นกลาง และเชื่อมโยงการผลิตสินค้าในซัพพลายเชนของอินเดีย รัฐทมิฬนาฑู มีเจนไนเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางการผลิตของอินเดีย มีเขตเศรษฐกิจพิเศษมากที่สุดถึง 40 แห่ง มีแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะวิศวกรจำนวนมากที่สุดในประเทศอินเดีย ผู้ประกอบการไทยอาจจะเข้าไปลงทุนได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอ อาหารแปรรูป ยานยนต์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐคุชราตมีคานธีนาการ์เป็นเมืองหลวง มีความพร้อมด้านคลัสเตอร์ โครงสร้างพื้นฐาน และกฎระเบียบที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ มีท่าเรือขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศ เหมาะกับการตั้งฐานการผลิตเพื่อขายในประเทศและส่งออก

 
 
 
 
กรรมการ EXIM BANK กล่าวต่อไปว่ารัฐที่มีศักยภาพลำดับต้นๆของอินเดียส่วนใหญ่อยู่บริเวณฝั่งตะวันตกและตอนใต้ของประเทศ ซึ่งแต่ละรัฐมีความโดดเด่นและปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน คลัสเตอร์อุตสาหกรรม กฎระเบียบและขนาดตลาด ผู้ประกอบการไทยควรมองอินเดียในลักษณะ 1 รัฐ เท่ากับ 1 ประเทศ เพื่อศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละรัฐก่อนจะรุกเข้าไปทำธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนเครื่องมือทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจเข้าไปในอินเดีย ทั้งด้านเงินทุนหมุนเวียน เงินทุนระยะกลางถึงระยะยาว ประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมและความมั่นใจในการรุกเข้าตลาดอินเดีย สามารถแข่งขันได้ในทางธุรกิจและบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากคู่ค้าในอินเดีย

ทั้งนี้อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 10 ของไทย การค้าระหว่างไทยและอินเดียมีมูลค่า 12,463.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปอินเดีย 7,600.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขณะที่ไทยนำเข้าจากอินเดีย 4,863.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าจากอินเดียที่สำคัญ ได้แก่ อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ

“EXIM BANK พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยบุกตลาดใหม่อย่างอินเดีย โดยสนับสนุนข้อมูลความรู้ อาทิ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละรัฐ ซึ่งทําให้การเลือกพื้นที่ในการดําเนินธุรกิจเป็นสิ่งสําคัญอันดับต้นๆ รวมทั้งสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ ด้วยความพร้อมด้านเงินทุนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อจะได้แข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอดุลย์กล่าว

 
 
 
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่าปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าผู้ประกอบการที่ส่งสินค้าออกไปยังอินเดียประมาณ 10-20 ราย  ซึ่งมีวงเงินสินเชื่อตั้งแต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ถึง 100 ล้านบาท  ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลไทยและอินเดียขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกันมากขึ้น ในปีหน้าธนาคารตั้งเป้าที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนไปยังอินเดียให้มากขึ้น โดยกำหนดวงเงินไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย  

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ก.ย. 2562 เวลา : 15:43:09
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 8:23 am