แบงก์-นอนแบงก์
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 30.50-30.80 บาท/ดอลล์


กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 30.50-30.80 จับตามาตรการอีซีบี หลังค่าเงินยูโรอ่อน


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.80 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.66 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 3.5 พันล้านบาท และ 1.16 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับเยน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นและสินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐฯและจีนจะหาทางยุติสงครามการค้ารวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งเกินคาด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 12 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงและส่งสัญญาณการดำเนินโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์รอบใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีเงินยูโรอ่อนค่าลงนับตั้งแต่การประชุมเมื่อเดือนก.ค. สะท้อนคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดังนั้นมาตรการของอีซีบีอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นแรงขายเงินยูโรรอบใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แย่กว่าคาด ไม่กระทบดอลลาร์มากนักและประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนเงินปอนด์มีแนวโน้มผันผวนสูงแม้ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ อนุมัติร่างกฎหมายเลื่อนเส้นตาย Brexit ออกไปเป็นครั้งที่สาม โดยเรามองว่าความหวังที่จะหาทางออกที่ราบรื่นของ Brexit อาจเป็นเพียงการยื้อเวลาความไม่แน่นอนออกไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 จะเพิ่มขึ้น 0.8-0.9% ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเป็นผลจากฐานราคาน้ำมันที่สูงในปี 2561และเงินบาทแข็งค่า ส่วนอุปสงค์ในประเทศมีสัญญาณชะลอตัว ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0.87% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.55% เราคาดว่ากนง.มีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้นและส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.ย.เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายนอกมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเรามองว่ากนง.จะปรับลดดอกเบี้นนโยบายลงสู่ระดับ 1.25% ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ก.ย. 2562 เวลา : 15:58:13
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 10:33 am