แบงก์-นอนแบงก์
"ออมสิน"จับมือ"ไอซีบีซี (ไทย)"เครือข่ายธนาคารอันดับ 1 ของโลก ร่วมพัฒนาบริการทางการเงิน


"ออมสิน"จับมือ"ไอซีบีซี (ไทย)"เครือข่ายธนาคารอันดับ 1 ของโลก ร่วมพัฒนาบริการทางการเงินครอบคลุมกลุ่มลูกค้าไทย-จีน


 
 
 
ธนาคารออมสินสถาบันการเงินของรัฐขนาดใหญ่และมีฐานลูกค้ารายย่อยมากที่สุดในประเทศไทย จับมือพันธมิตรธนาคาร ไอซีบีซี (ไทย) กลุ่มเครือข่ายธนาคาร ไอซีบีซี ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีลูกค้าบุคคลมากกว่า 500 ล้านราย ผนึกกำลังส่งเสริมความแข็งแกร่งของทั้งสองธนาคารเป็นเครือข่ายธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยขยายฐานลูกค้า ไทย-จีน ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ผ่านธุรกรรมในประเทศไทยด้วยเครือข่ายของธนาคารออมสิน และผ่านเครือข่าย ไอซีบีซี ทั่วโลก เผย ภายใต้ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมเครือข่ายธุรกิจฐานรากและโครงการขั้นพื้นฐานของทางภาครัฐ

วันนี้ (11 ตุลาคม 2562)ณ ห้องประชุมกำแพงเพชร ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ(Memorandum of Understanding : MOU)ระหว่าง ธนาคารออมสิน กับ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินและดร.จื้อกัง หลี่ ประธานกรรมการ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินร่วมกัน โดยนำจุดแข็งของทั้ง 2 สถาบันการเงินมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่าย

 
 
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ คือ ไทย และจีน ที่มีมาอย่างยาวนานในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และทางสังคม จวบจนปัจจุบันที่รัฐบาลประเทศจีนและรัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือกันในหลายๆโครงการ เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC, โครงการ One Belt One Road เป็นต้นในขณะที่คนไทยและคนจีนมีการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้สถาบันการเงินของรัฐขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของไทยได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารไอซีบีซี ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกัน เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้ง 2 ธนาคาร

ทั้งนี้ธนาคารออมสินได้ดำเนินงานภายใต้ภารกิจหลักด้านการส่งเสริมการออม การสร้างวินัยทางการเงินการเป็นแหล่งทุนสนับสนุนประชาชนรายย่อย และสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยบริการทางการเงินครบวงจร โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะครอบคลุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ 7 ด้านดังนี้
1. บัตรเครดิต Co-Branded UnionPay
2. บริการด้านร้านค้ารับบัตร (EDC/POS)
3. ด้านการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์
4. การให้สินเชื่อร่วม/เงินกู้ร่วม(Syndicated Loan) 
5. โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC (Eastern Economic Corridor)
6. การให้กู้ยืมระหว่างธนาคาร (Interbank Lending) 
7. การเป็นตัวแทนเพื่อให้บริการลูกค้าร่วมกัน (Banking Agent)
โดยธนาคารออมสินเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือดังกล่าวนี้จะเป็นกลไกสำคัญเพื่อที่จะสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกันให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งในเฟสแรกจะเน้นการพัฒนาการออกบัตรเครดิตร่วม และการให้สินเชื่อกับกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เป็นคนจีน โดยคาดว่าจะเห็นผลในช่วงไตรมาสแรกปี2563 

 
 
 
ดร.จื้อกัง หลี่ ประธานกรรมการ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด(มหาชน)กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ธนาคารทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยมาโดยตลอด และพร้อมให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมได้อย่างครบถ้วน
“การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจระหว่าง 2 ธนาคาร โดยจะมีการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มลูกค้าบุคคลและลูกค้านิติบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ธนาคารไอซีบีซีมีกลุ่มลูกค้าบุคคลมากกว่า 500 ล้านราย โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยและมีการใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และแอพพลิเคชั่น AlipayWechatpay ในขณะที่ธนาคารออมสินเองมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มร้านค้าผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นจำนวนมาก
 
ดังนั้นธนาคารมั่นใจว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการช่วยขยายฐานลูกค้าของทั้งสองธนาคาร ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกยิ่งขึ้นและเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้กับร้านค้าด้วย อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มมูลค่าด้านการท่องเที่ยว ในแง่ของเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะเป็นรากฐานในการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งต่อไป” ดร.จื้อกัง หลี่ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของธนาคารออมสินในปีนี้ ดร.ชาติชายมั่นใจว่า สินเชื่อและเงินฝากจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3-5% หรือคิดเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สิ้นปีสินเชื่อของธนาคารจะอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาทจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท และเงินฝากอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้  (NPL) ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.9% และสิ้นปีนี้คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 2.8%  ตามเป้าหมายของธนาคาร  ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ต.ค. 2562 เวลา : 16:55:57
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 7:29 am