แบงก์-นอนแบงก์
ธ.ก.ส.ชูการขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน


ธ.ก.ส.ร่วมงานโครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนา พื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน บูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจชุมชน ตามนโยบายขับเคลื่อน การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าพัฒนา 928 ชุมชนภายในสิ้นปีนี้

 


 
วันนี้ (30 ตุลาคม 2562) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนาและมอบนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยมีนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผู้บริหารธนาคารออมสินและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนฯ และตัวอย่างชุมชนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน นอกจากนี้ยังมีพิธีมอบสินเชื่อให้ลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ การจัดตลาดชุมชนทางน้ำและการฝึกอบรมให้ความรู้ โดยมีเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน สถาบันการเงินชุมชนและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน ณ หอประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเทศบาลตำบล สันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

 
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย"ประชารัฐสร้างไทย" ที่เป็นการร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สภาเกษตรกรแห่งชาติ ภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง การสนับสนุนทั้งความรู้และการเงิน แก่เกษตรกร ชุมชน การสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ผ่านตลาดประชารัฐ การท่องเที่ยวชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและครอบคลุมในทุกๆด้าน

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้นำนโยบายมาจัดทำเป็นโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน ประกอบด้วย กิจกรรมการผลิต กิจกรรมขายผลผลิต กิจกรรมการซื้อและบริโภคของคนในชุมชนอย่างมีส่วนร่วม สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยใช้ทรัพยากรของชุมชนมีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเกื้อกูลและเป็นธรรม โดยมีแนวทางในการขับเคลื่อนที่เริ่มจากการค้นหาและศึกษาความต้องการของชุมชน ทั้งโอกาส ศักยภาพ ปัญหา แนวทางพัฒนาและแก้ไข เหมือนการระเบิดจากภายในจากนั้นจึงเริ่มพัฒนาสร้างความเข้มแข็ง โดยยึดหลักตลาดนำการผลิตและมีการกำหนดแผนธุรกิจที่ชัดเจน ผสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในด้านความรู้ เทคโนโลยีนวัตกรรม งานวิจัยและงบประมาณ อีกทั้ง ธ.ก.ส. ยังช่วยสนับสนุนสินเชื่อให้กับ Smart Farmer ผู้ประกอบการ SME เกษตร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เพื่อทำให้เกิด ผลลัพธ์ คือ ความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก มีภูมิคุ้มกัน มีรายได้ สวัสดิการสังคมและโอกาสทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ SMART Farmer SMEs หัวขบวน วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร ซึ่งแบ่งพื้นที่ดำเนินการเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม (กลุ่มการผลิต กลุ่มบริการและกลุ่มรวบรวม) ด้านท่องเที่ยว (กลุ่มที่พักโฮมสเตย์ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มนำเที่ยวและขนส่ง กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชม) และด้านอุตสาหกรรม (กลุ่มแปรรูปและกลุ่ม Logistics) โดยตั้งเป้าขับเคลื่อนให้ได้ 928 ชุมชน ภายในสิ้นปี 2562 และเป็น 9,000 ชุมชน ภายในปี 2564
 
 

 
 
นายอภิรมย์ได้นำเสนอโมเดลการพัฒนาธุรกิจชุมชนที่มีศักยภาพนำร่อง 8 จังหวัด ได้แก่ ตัวอย่างพัฒนาธุรกิจชุมชนเพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เช่นชุมชนบ้านโป่งสามัคคี อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนบ้านทากู่ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ชุมชนบ้านแม่แจ๋ม อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ชุมชนบ้านโป่งศรีนคร อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ชุมชนบ้านนาปลาจาด อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และตัวอย่างชุมชนที่มีการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่คุณค่าสินค้าเกษตรในพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ธุรกิจชุมชนบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ธุรกิจชุมชนบ้านปางปุก อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน และชุมชนตำบลบ้านกวางอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างธุรกิจชุมชน

นายอภิรมย์กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อขยายโอกาสในด้านต่างๆ ทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และเทคโนโลยีให้แก่คนในชุมชนได้ครอบคลุม ลดปัญหา ความเหลื่อมล้ำ ยกระดับห่วงโซ่มูลค่าการผลิต อุตสาหกรรม และบริการต่างๆ เพื่อสร้าง SMART Farmer ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชนและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สู่การสร้างความยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจฐานราก โดยการอำนวยสินเชื่อรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ภายในปี 2564

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ต.ค. 2562 เวลา : 14:42:38
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:52 pm