ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินได้ลงนามความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจกับธนาคารพาณิชย์ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อการบริหารจัดการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคตร่วมกัน และสานต่อนโยบายเครื่องเอทีเอ็มสีขาวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเอทีเอ็มสีขาว หรือWhite Label ATM ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ในการใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็มจากการมีเครือข่ายเอทีเอ็มที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์กับธนาคารที่จะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน การบริหารจัดการเอทีเอ็ม การบริหารจัดการเงินสดและช่วยให้จัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินจะสามารถใช้บริการทั้งการถอนเงิน สอบถามยอดและโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรที่เครื่องเอทีเอ็มของทั้ง 2 ธนาคาร โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารและทำธุรกรรมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สำหรับการทำธุรกรรมในจังหวัดเดียวกันจากเดิมที่ลูกค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารเมื่อใช้บริการตั้งแต่รายการที่ 5 ภายในเดือนเดียวกัน ส่วนการทำธุรกรรมข้ามจังหวัดสำหรับโครงการนี้ การถอนเงินสดจะคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ การโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรลูกค้าธนาคารกสิกรไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนลูกค้าธนาคารออมสินคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 - 30 เมษายน 2563
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่าการให้บริการทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มในประเทศไทยมีมานานหลายสิบปี ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละแห่งต่างมีต้นทุนในการบริหารจัดการแต่จากความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารสามารถเข้าถึง และใช้บริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ยังสามารถสร้างเป็นต้นแบบ เพื่อรองรับการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มกับลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนเครื่องเอทีเอ็มหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนในการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคต
สำหรับระยะแรกความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยจะนำร่องในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยมีเครื่องเอทีเอ็มในพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าวเกือบ 400 เครื่องและในระยะต่อไปจะขยายพื้นที่ให้บริการไปทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารออมสินมีเครื่องเอทีเอ็มมากกว่า 7,000 เครื่อง เมื่อรวมกับเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่มีกว่า 10,000 เครื่อง จะถือว่ามีจุดบริการมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ธนาคารจะร่วมมือกันพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมและอำนวยความสะดวกสบายแก่ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารมากยิ่งขึ้น
ข่าวเด่น