หลังจากออกมาประกาศปรับโครงสร้างผ่านยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 2561-2565) เพื่อก้าวสู่การเป็น “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” (NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY) ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างของ“เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น”ที่ทำการควบรวมบริษัทย่อยและบริษัทร่วมเข้ามาไว้ในพอร์ตเดียวกัน เพื่อผลักดันรายได้ต่างประเทศให้มีสัดส่วน 40% ในประเทศ 60% ในปี 2565 จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 30% ในประเทศ 70% ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องเดินหน้าลุยขยายธุรกิจต่อเนื่องทันทีไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ
โดยเฉพาะในส่วนของตลาดต่างประเทศปี 2562 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญ เนื่องจากล่าสุดได้มีการออกมาประกาศ 3 โปรเจคยักษ์ในตลาดต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศก้าวไปสู่เป้าหมาย 40% ในอีก 3 ปีนับจากนี้ ด้วยเหตุนี้กลุ่มเซ็นทรัลจึงต้องทุ่มเทสัพกำลังที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ค้าปลีกและบริการที่สั่งสมมามากกว่า 72 ปี พัฒนาโครงการใน 3 ทำเลยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่าง เวียนนา โอซากาและตูริน ภายใต้งบ 20,000 ล้านบาท ให้ผงาดและมีชื่อเสียง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจในต่างประเทศ
.jpg)
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าบริษัทได้สานต่อยุทธศาสตร์ขยายการลงทุนในต่างประเทศตามเทรนด์การท่องเที่ยวโลก (Global Tourism Trend) ด้วยการพัฒนาโครงการแฟล็กชิพที่มีศักยภาพสูงในเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ล่าสุดได้ลงทุนโครงการครั้งยิ่งใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ โครงการมิกซ์ยูสที่กรุงเวียนนา ประเทศ ออสเตรีย, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา ประเทศญี่ปุ่นและห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต เมืองตูริน โฉมใหม่ ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
สำหรับโครงการที่เวียนนาจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสสุดหรูกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในส่วนของโครงการนี้จะมีขนาด 58,000 ตร.ม. ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าและโรงแรมสุดหรูขนาด 150-165 ห้องพัก ร้านค้า พร้อมด้วยร้านอาหารชั้นนำและสวนสาธารณะลอยฟ้า สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ที่จะเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา โดยมุ่งเน้นให้เป็นจุดหมายใหม่แห่งการพบปะสังสรรค์ ด้วยรูปแบบที่ทันสมัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง
นอกจากนี้โครงการนี้ยังมีจุดเด่นในด้านของทำเลที่ตั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพสูงใจกลางถนนมาเรียฮิลเฟอร์ สตราเซ (MariahilferStraße) แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมและยังอยู่ในละแวกใกล้เคียงย่านพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและกลุ่มซิกน่า (SIGNA Group)บริษัทชั้นนำในประเทศออสเตรีย โดยมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2566
ส่วนการลงทุนโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา ซึ่งเกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารากับสองบริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น Taisei Corporation และ Kanden Realty & Development จะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์เซ็นทาราแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ใจกลางย่านนัมบะ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองโอซากาและภูมิภาคคันไซ โดยโอซากาถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 2 ของประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมามากที่สุด ด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นและทำเลของเมืองที่ใกล้กับเมืองเกียวโต โกเบและนารา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มเซ็นทรัลที่ขยายธุรกิจสู่เมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก
สำหรับรูปแบบโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากาจะเป็นโรงแรมแฟล็กชิพระดับ 5 ดาว ใจกลางเมือง เทียบเท่ากับโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นโรงแรมหรู 34 ชั้น ขนาด 515 ห้องพัก สามารถมองเห็นทัศนียภาพ อันสวยงามของสวนสาธารณะนัมบะได้เต็มวิสัยทัศน์ 360 องศา ชั้นบนสุดของโรงแรมจะมีทั้งเลานจ์และพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนท์และประชุมสัมมนา รวมถึงร้านอาหารชั้นดาดฟ้าและสกาย บาร์ พร้อมทัศนียภาพ อันงดงามของเมืองโอซากาในแบบพาโนรามา
ในด้านของการออกแบบจะมีการผสมผสานระหว่างแรงบันดาลใจสไตล์ญี่ปุ่นและความมีชีวิตชีวาและสีสันของวัฒนธรรมไทย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสปาเซ็นวารีที่ได้รับการการันตีด้วยรางวัลต่างๆ มากมาย ฟิตเนส เซ็นเตอร์ ห้องอาหารหลากหลายรูปแบบและห้องจัดเลี้ยงสำหรับการจัดงาน อีเวนต์และสัมมนาประเภทต่างๆ รวมถึงล็อบบี้ขนาดโอ่โถงเพื่อมอบการต้อนรับและบริการแก่แขกผู้เข้าพักจากทั่วทุกมุมโลกอย่างอบอุ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566
ปิดท้ายที่การลงทุนห้างสรรพสินค้ารีนาเซนเต สาขาตูริน โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กลุ่มเซ็นทรัลภาคภูมิใจ เนื่องจากตูรินเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางด้านการค้าและการท่องเที่ยวเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามของประเทศอิตาลีที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์สุดคลาสสิค ด้วยเหตุนี้กลุ่มเซ็นทรัล จึงตัดสินใจใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เข้าซื้อที่ดินและอาคารในปี 2560 เพื่อนำมาออกแบบและพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อยกระดับเมืองตูริน สู่ประสบการณ์ช้อปปิ้งนำสมัย สร้างความภูมิใจให้กับชาวเมืองตูรินและผู้มาเยือนทุกคน
จุดเด่นของห้างสรรพสินค้ารีนาเซนเต สาขาตูรินที่กลุ่มเซ็นทรัล มั่นใจว่าจะสามารถมัดใจลูกค้าได้ คือ ความสวยงามของอาคารที่ออกแบบโดย Gianmatteo Romegialli นักออกแบบชื่อดังระดับโลก โซนเครื่องประดับโฉมใหม่และการมีร้านอาหารชื่อดังที่นำเข้ามาเปิดให้บริการ เช่น ร้านเทมาคินโฮ
หลังจากเปิดตัว 3 โครงการยักษ์ใหญ่นี้ คาดว่าในอนาคตอันใกล้น่าจะมีอีกหลายโครงการทยอยเปิดตัวออกมา เนื่องจากปัจจุบันเงินบาทของไทยยังคงอยู่ในภาวะแข็งค่า ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ดีสำหรับการลงทุนในตลาดต่างประเทศจากปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีธุรกิจในประเทศเวียดนาม อิตาลี เดนมาร์ก เยอรมัน ออสเตรีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
โดยเฉพาะในยุโรป กลุ่มเซ็นทรัลยังมองเห็นอนาคตที่สดใสเนื่องจากรายรับที่ได้เข้ามามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ส่งผลให้ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีรายได้มาจากนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 12-20% หนึ่งในนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไปช้อปปิ้งในยุโรปอย่างหนักหน่วง คือ นักท่องเที่ยวไทย
.jpg)
ข่าวเด่น