ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (2 - 6 ธ.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัว หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าตัวแทนของทั้ง 2 ประเทศมีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง ส่งผลให้รัฐบาลจีนอาจมีมาตรการตอบโต้กลับ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกำลังการผลิตปรับตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าผู้แทนการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้มีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มีแผนการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนหลังจากผ่านพ้นเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเพื่อเจรจาการค้าระยะแรก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาดูท่าทีของจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง โดยรัฐบาลจีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน
ตัวเลขทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ มีทิศทางดีขึ้น หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3/2562 เติบโตอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.1 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการในครั้งที่แล้วที่ระบุว่าเติบโตที่ระดับร้อยละ 1.9 ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้น
ตลาดจับตามองผลการประชุมของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรในวันที่ 5 - 6 ธ.ค. นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 63 ออกไปเป็นเดือน มิ.ย. 63
ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางยังคงสร้างความกังวลด้านกำลังการผลิตน้ำมันดิบ หลังความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิรักยังคงคุกรุ่น โดยกลุ่มผู้ประท้วงในอิรักได้จุดไฟเผาสถานกงสุลของอิหร่านในเมืองนาจาฟเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เกิดเหตุการณ์ยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel ในลิเบีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 70,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้กำลังการผลิตต้องหยุดชะงักลง อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้แล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา
ปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. 62 ปรับตัวสูงขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตจีนเดือน พ.ย. ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน พ.ย. ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ เดือน พ.ย. จีดีพียูโรโซนไตรมาส 3/2562
ข่าวเด่น