การตลาด
สกู๊ป "เจเคเอ็น"เร่งลุยรายการข่าวชู "ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง"เพิ่มรายได้


หลังจากได้รับสิทธิ์ในการผลิตและนำเสนอรายการข่าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของ CNBC ภายใต้ แบรนด์ JKN-CNBC บริษัท เจเคเอ โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน)หรือ JKN ก็ออกมาประกาศเดินหน้าลุยทำคอนเทนต์รายการข่าวอย่างจริงจังทันทีตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา โดยข่าวที่เจเคเอ็นจะเน้นการนำเสนอเป็นพิเศษ คือ เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการสื่อรายใดออกมาทำรายการข่าวในรูปแบบดังกล่าวอย่างจริงจังและเพื่อให้รายการข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เป็นที่รู้จักมากขึ้นนอกจากหน้าจอทีวี เจเคเอ็น จึงได้มีการขยายแพลตฟอร์มในการรับชมผ่านช่องทางเว็บไซต์  www.jkncnbc.com  เพื่อให้ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เริ่มนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา


สำหรับรายการข่าวที่ เจเคเอ็น นำมาออกอากาศผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการทดลองผลการตอบรับของผู้ชมในครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 รายการ  คือ รายการ Squawk Box รายการ Power Lunch และรายการ Street Signs ซึ่งทั้ง 3 รายการล้วนเป็นรายการข่าวเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนสุดฮิตของ เจเคเอ็น

 
 
นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็นนิวส์ จำกัด บริษัทย่อยในเครือ JKN กล่าววว่า หลังจาก บริษัทฯได้รับสิทธิ์ในการผลิตและนำเสนอรายการข่าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของ CNBC ภายใต้  แบรนด์ JKN-CNBC ซึ่งผลิตรายการข่าวด้านการเงินการลงทุนในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ชมชาวไทย ปัจจุบันได้มีการผลิตรายการข่าวในรูปแบบดังกล่าวให้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 5, อัมรินทร์ทีวี ช่อง 34 และช่อง TNN 16  รวม 4 รายการ ได้แก่ รายการ HALF TIME REPORT รายการ JKN-CNBC Around The World รายการ The CNBC Conversation และรายการ Managing Thailand  โดยทั้ง 4 รายการได้ผลการตอบรับจากกลุ่มผู้ชมเป็นอย่างดี

นอกจากจะมีรายการข่าวที่ผลิตออกมาเพื่อป้อนให้กับทีวีดิจิทัลช่องต่างๆแล้ว เจเคเอ็นยังมีรายการอื่นๆที่ผลิตโดย JKN-CNBC รวมถึงรายการสารคดีชั้นนำระดับโลก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลในประเทศไทยและตอกย้ำให้ JKN-CNBC เป็นสถานีข่าวสารเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ตลอด 24 ชั่วโมง

อีกหนึ่งช่องทางที่ เจเคเอ็น ให้ความสนใจจะเข้าไปทำตลาด เพื่อขยายฐานผู้ชมให้ครอบคลุมมากขึ้น คือ การนำเสนอรายการข่าวผ่านแอพพลิเคชั่น JKN-CNBC เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมรายการข่าว และรายการต่างๆของ JKN-CNBC ผ่านโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ได้ทั้งแบบเรียลไทม์และดูรายการย้อนหลัง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการในเดือนมี.ค.นี้

ขณะเดียวันยังมีแผนที่จะต่อยอดไปสู่การเป็นสถานีข่าวเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุนชั้นนำของประเทศไทยผ่านการจัดงาน Wealth Expo by JKN-CNBC  ซึ่งเป็นงานมหกรรมที่รวมสุดยอดความรู้และผลิตภัณฑ์การเงินการลงทุน โดยงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ภายในงานจะมีแหล่งข้อมูลความรู้ครอบคลุมทั้ง 5 หมวดหมู่ที่จะเสริมสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ลงทุน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน สุขภาพ เทคโนโลยี การท่องเที่ยว หรือธุรกิจสื่อต่างๆ

ส่วนแผนการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจคอนเทนต์ละครและซีรีส์นั้น เจเคเอ็น ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการนำคอนเทนต์ซีรีส์และละครไทยยึดตลาดอาเซียนได้สำเร็จ  เนื่องจากมีการทำตลาดในทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นทีวีทั่วไป  ทีวีแบบบอกรับสมาชิก  หรือ OTT

ขณะเดียวกัน ในส่วนของซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ที่ เจเคเอ็น ได้นำมาทำตลาดไทยและประเทศเพื่อนบ้านก็ได้ผลการตอบรับที่ดี โดยสามารถครองใจผู้ชมในกลุ่ม CLMV ได้สำเร็จ จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว เจเคเอ็นมั่นใจว่าปี 2563 นี้จะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% ของรายได้รวมอย่างแน่นอน

 
 
 
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล กล่าวว่าจากนโยบายการดำเนินงานในปีนี้ที่ตั้งเป้ารุกขยายตลาดในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ ‘ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ ที่สร้างความนิยมในคอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และซีรีส์ละครไทย จากช่อง 3

ตลอดปี 2562 ที่ผ่านมา เจเคเอ็นสามารถเปิดตลาดในต่างประเทศและประสบความสำเร็จในการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ให้กับผู้ประกอบการทีวี มากกว่า 1,000 ชั่วโมง  ส่วนลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากช่อง 3 ที่ เจเคเอ็น รับหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดและจำหน่ายคอนเทนต์นั้นก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศผ่านทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญากับ ‘ติ่มซำ’ ที่นำละครจากช่อง3 ไปออกอากาศผ่านแพลตฟอร์ม OTT (Over-the-top) ให้แก่ผู้ชมในประเทศมาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์

 
 
 
นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายคอนเทนต์ให้กับสถานีโทรทัศน์ราจาวลี (RAJAWALI TV) ผู้นำสื่อโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย เพื่อนำไปออกอากาศผ่านเครือข่ายฟรีทีวี รวมไปถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยไปยังประเทศเกาหลี โดยจำหน่ายคอนเทนต์ให้แก่บริษัท TRA Media ซึ่งเป็นเจ้าของโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกจำนวน 4 ช่องของประเทศเกาหลี ผลตอบรับที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการผลิตของละครไทยที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้ชมภูมิภาคเอเชียได้เป็นอย่างดี

นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่าการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆจะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรปหรือละตินอเมริกา เพื่อผลักดันคอนเทนต์ละครไทยให้เป็นที่รู้จักและเกิดการยอมรับจากผู้ชมทั่วโลก ผ่านการจัดกิจกรรมออกบูธ เพื่อประชาสัมพันธ์คอนเทนต์ไทย เช่นเดียวกับการเข้าร่วมงาน Asia TV Forum & Market 2019 (ATF 2019) ที่ประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งบริษัทได้เข้าไปร่วมงานมา ในงานดังกล่าวบริษัทได้นำละครไทยกว่า 100 เรื่อง เข้าไปทำตลาดและในจำนวนดังกล่าว 2 เรื่อง คือ  ‘ลิขิตรักข้ามดวงดาว’ และ’กรงกรรม” ได้เข้าชิงรางวัล Regional Winner อีกด้วย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ม.ค. 2563 เวลา : 07:46:51
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 1:28 pm