การตลาด
สกู๊ป "เนสกาแฟ" ชู "เอ็กซ์พีเรียนเชียล มาร์เก็ตติ้ง"ย้ำผู้นำกาแฟสำเร็จรูป


ร้านกาแฟใหม่ๆที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดจากเดิมผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรับประทานกาแฟชงเองในบ้านแต่ปัจจุบันหันมารับประทานกาแฟนอกบ้านมากขึ้น ยิ่งร้านไหนมีการตกแต่งร้านสวยงามชวนถ่ายรูปก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ


 
 
 
 
จากเหตุการที่เกิดขึ้นทำให้ภาพรวมตลาดกาแฟปรุงสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตค่อนข้างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1-2%เท่านั้น เช่นเดียวกับปี 2562 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดกาแฟสำเร็จรูปของไทยมีอัตราการเติบโตเพียง 2% เท่านั้นและมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟสำเร็จแบบทรีอินวันประมาณ 16,300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 77% และตลาดกาแฟชงเองประมาณ 4,700 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23%

ผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟสำเร็จรูปต้องมาปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ให้ได้ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดและหนึ่งในผู้ประกอบการที่ออกมาปรับตัวอย่างเห็นได้ชัด คือ เนสกาแฟ 

นางสาวนาริฐา วิบูลยเสข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่าบริษัทสามารถผลักดันให้ธุรกิจเนสกาแฟกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2562 หลังจาก 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจกาแฟสำเร็จรูปของเนสกาแฟถูกตลาดกาแฟบริโภคนอกบ้านที่เป็นร้านเชนเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป แม้ว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนักแต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะผู้บริโภคมีพฤติกรรมบริโภคชงกาแฟดื่มในบ้านลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีแม้ว่าตลาดรวมกาแฟสำเร็จรูปจะเติบโตลดลงแต่ก็ยังมีโอกาสให้เข้าไปทำตลาดอีกมาก เนื่องจากอัตราบริโภคกาแฟคนไทยยังน้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่ญี่ปุ่นประมาณ 400 แก้วต่อคนต่อปี ส่วนยุโรปเฉลี่ยที่ 600 แก้วต่อคนต่อปี

ด้วยเหตุนี้เนสกาแฟ จึงต้องทำงานหนักขึ้นเริ่มจากการออกสินค้าใหม่อย่างกาแฟโนซูการ์ตามด้วยอเมริกาโนหรือกาแฟดำ เพื่อสร้างพฤติกรรมดื่มกาแฟเย็นในบ้าน ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวไปพบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ประเทศอื่นๆนำโมเดลของเนสกาแฟ ประเทศไทย ไปทำตลาดเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นจีนหรือฟิลิปินส์  ส่วนมาเลเซีย  ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะนำโมเดลการทำตลาดของไทยเข้าไปทำตลาดในมาเลเซียได้หรือไม่

 
 
 
อีกหนึ่งแผนการตลาดที่ทำให้แบรนด์ของเนสกาแฟกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ คือการจัดกิจกรรมเปิดตัวอินเทอร์แอคทีฟ อาร์ท สเตชัน เอ็มอาร์ที สถานีวัดมังกร ไปในเดือนส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ด้วยการตกแต่งภาพวาดศิลปินสไตล์จีน มีจุดเออาร์ทั่วสถานี ทำให้มีผู้ใช้บริการเข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปมากกว่า 5 ล้านคนและกลายเป็นสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในบรรดาสถานีที่เปิดใหม่ในปี 2562

นอกจากนี้ยังสามารถสร้างกระแสการพูดถึงทางโซเชียลมีเดียกว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู อินเตอร์แอคทีฟ อาร์ต สเตชั่น สถานีวัดมังกร ได้รับรางวัลแอดแมน อวอร์ดถึง 7 รางวัลและมียอดขายกลับมาเติบโตอีกครั้งภายหลังปล่อยโปรโมชั่นส่งเสริมการขายออกไป 

นางสาวนาริฐา กล่าวต่อว่าอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมาคือ การเปลี่ยนชื่อกาแฟทรีอินวันเป็นกาแฟเบลนด์แอนด์บรู ไปเมื่อปี 2559 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการดื่มกาแฟให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยที่มองหากาแฟปรุงสำเร็จที่มีกลิ่นหอมกรุ่นและรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมในราคาที่หาซื้อได้ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแบรนด์และปรับรสชาติใหม่     เนสกาแฟ เบลนด์แอนด์บรูก็มียอดขายเติบโตสูงสุดในกลุ่มเนสกาแฟทั่วโลกแซงหน้าฟิลลิปินส์ขึ้นเป็นอันดับ 1  จากเดิมอยู่อันดับ 3  แซงหน้า จีนที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 2 ความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวทำให้เนสกาแฟไทยเป็นเหมือน เวคอัพ คอลล์ (Wake up call) ให้กับประเทศอื่นนำไปศึกษากลยุทธ์และกิจกรรม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ และเพื่อให้ เนสกาแฟ ประสบความสำเร็จต่อๆไป ล่าสุดได้ใช้งบ 200 ล้านบาท จัดแคมเปญ“ ชงโชครับตรุษจีนสไตล์อินเตอร์แอคทีฟ”ทำกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์เสริมมงคลสุดล้ำครบวงจรให้กับผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยีเออาร์ ประกอบด้วยโปรโมชั่นยิ่งใหญ่แห่งปีที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ในบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ตรุษจีนที่เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น คอลเลคชั่นแก้วมงคลเนสกาแฟพร้อมคำมงคลจีน สื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย สื่อโฆษณาในรถไฟฟ้า MRT เนสกาแฟฮับทุกสาขา พร้อมด้วย 8 จุดมงคลที่ MRT สถานีวัดมังกร
 
 

 
 
 
 
ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถสแกนบรรจุภัณฑ์ แก้ว หรือสื่อต่างๆ โดยใช้แอปพลิเคชัน Recall บนมือถือ เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟเคลื่อนไหวแบบ 3D ของ 8 สรรพสัตว์และของมงคลพร้อมคำมงคลอักษรจีนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านความเจริญรุ่งเรือง การมีอายุยืนยาวและความสุขสมบูรณ์

นอกจากนี้ยังได้มีการทำงานร่วมกับหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังเพื่อเลือกสรรสรรพสัตว์และของมงคล 8 อย่างพร้อมกับคำมงคล 8 ประการ เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน 2020  และจับมือกับ “ยูน ปัณพัท เตชเมธากุล” ศิลปินนักวาดดาวรุ่งที่เคยร่วมงานกันในโปรเจคเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู อินเตอร์แอคทีฟอาร์ตสเตชั่นที่สถานีวัดมังกร เพื่อสร้างสรรค์ภาพวาดลายจีน 8 สรรพสัตว์และของมงคลในแคมเปญนี้

นางสาวนาริฐา กล่าวต่อว่าในปี 2563นี้ เนสกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรูจะเดินหน้านำประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างต่อยอดจากความสำเร็จของสถานีวัดมังกร โดยการใช้เทคโนโลยีเออาร์สุดล้ำ ทำให้เนสกาแฟสามารถยกระดับประสบการณ์กับผู้บริโภคไปอีกขั้น ด้วยการใช้กลยุทธ์ “เอ็กซ์พีเรียนเชียล มาร์เก็ตติ้ง”นำเสนอประสบการณ์ใหม่ของแคมเปญ ชิงโชครับตรุษจีนสไตล์อินเตอร์แอคทีฟ ครั้งแรกในประเทศไทยให้เข้าถึงคอกาแฟทั่วประเทศ

หลังจากเปิดตัวแคมเปญนี้ไป เนสกาแฟ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกแล้ว ยังมีคอลเลคชั่นแก้วมงคลเนสกาแฟอินเตอร์แอคทีฟด้วยเทคโนโลยีเออาร์จำนวน 8 ใบ และลุ้นโชคทองสะท้านฟ้า รวยทุกสัปดาห์ชิงทองคำมูลค่ากว่า 10 ล้าน

 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ม.ค. 2563 เวลา : 08:01:41
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 11:06 pm