หุ้นทอง
ลุ้นดีดผ่าน 1,604 ก่อนขึ้นไป 1,620 จุด / ทองจุดเข้าซื้อ1,540 - 1,545 ดอลล์


ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นต่อเนื่องมาตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากรับข่าวสัญญาณบวกจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เริ่มคลี่คลายโดยดัชนีขยับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,604 จุด แต่ยังไม่ผ่านเกิดเป็นสัญญาณโดจิ และมีแรงขายทำกำไรออกมาพอสมควร ในขณะที่ MACD ดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้ 2 วันแล้ว 


หากวันนี้ (20 ม.ค.) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมา หรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันแถวๆ 1,596 จุดอีก หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,593 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน1,604 จุดขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมที่ 1,620จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก้ หุ้น BAM ซึ่งมีแนวรับ 24.50 , 24.00 บาท และมีแนวต้าน 25.50-25.75 บาท โดยระดับราคาปรับตัวขึ้นทำ New high ต่อเนื่อง แต่วอลุ่มซื้อขายเริ่มลดลง เนื่องจากกรีนชูหมดแล้ว ขณะนี้เกิดจากการคาดการณ์ผลประกอบการและแรงเก็งกำไรของนักลงทุน 

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 24.50 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุด 24.00 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 25.50-25.75 บาทต่อไป

 
 
 
ส่วนหุ้น PORT มีแนวรับ 2.46-2.44 บาท และมีแนวต้าน 2.60 , 2.74 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 9 สัปดาห์ อีกทั้งยังขยับออกไปปิดนอกกรอบ Bollinger Top เล็กน้อยและเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันด้วย 

ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นดังกล่าวแถวๆ 2.46-2.44 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 2.60 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 2.74 บาทต่อไป

และหุ้น AU มีแนวรับ 11.50-11.20 บาท และแนวต้าน 12.00-12.20 , 12.80 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 1 เดือนอีกทั้งยังขยับออกไปปิดนอกกรอบ BollingerTop เล็กน้อยและเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันด้วย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นแบบสม่ำเสมอ ในขณะที่ MACD ปรับตัวขึ้นแรงมากและกำลังจะผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้ 

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 11.50-11.20 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 12.00-12.20 บาทและ 12.80 บาทต่อไป

ขณะที่ภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่าน เมื่อถึงเวลา 15.40 น วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,555.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,562.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับลงอีกราว 7.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับปัจจัยลบจากการที่สหรัฐและจีนประสบความสำเร็จในการเซ็นข้อตกลงการค้าเฟสแรก

ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมาก โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,535.99 – 1,561.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาปรับย่อรอรับข่าวที่จีนและสหรัฐได้ทำการเซ็นข้อตกลงทางการค้าเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ข่าวนี้ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์และกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ 

ทั้งนี้ราคาทองคำปรับลงในกรอบจำกัด โดยไปทำจุดต่ำสุดไว้บริเวณ 1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นสัปดาห์และกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,545-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์อยู่เกือบทั้งสัปดาห์ที่เหลือ เนื่องจากตลาดยังคาดว่าประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในอนาคต 

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอ่อนค่าราว 0.195 บาทต่อดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่าภายในสัปดาห์มากสุดในรอบกว่า 6 เดือน ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.415 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.220 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.145-30.515 บาทต่อดอลลาร์

 
 
 
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่า ตามที่ได้แนะนำไปก่อนหน้าให้ซื้อตามเมื่อราคาปิดเหนือ 1,490 กอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และราคาได้ถึงเป้าหมายทั้ง 1,520  ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับแล้ว 

แม้ราคาจะมีการปรับลงจากจุดสูงสุดมาถึง 1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่ยังคงเป็นการยกจุดต่ำสุดของขาขึ้นรอบนี้อยู่ จึงยังสามารถเข้าไปเก็งกำไรซื้อระยะสั้นได้ โดยจุดเข้าซื้ออยู่บริเวณ 1,540-1,545 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป้าในการขายเก็งกำไรคือ 1,555-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งได้ถึงเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว 

แต่ยังสามารถเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบนี้ได้เหมือนเดิม หากหลุดต่ำกว่า 1,535 พอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุนทันที หรือหากราคากลับมายืนเหนือ 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ให้ซื้อเก็งกำไรตามทันที โดยเป้าระยะสั้นถัดไปอยู่ที 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้จะไม่เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน เนื่องจากเรามองว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐมีการปรับตัวขึ้นสูงมากแม้สภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่อยู่ในช่วงเติบโตที่ดี ทำให้มีโอกาสที่เงินทุนจะไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำทันทีเมื่อมีเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ
 

LastUpdate 20/01/2563 11:46:58 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 8:14 pm