หุ้นทอง
ลุ้นดัชนีประคองตัวหากไม่ไหวรอรับ 1,507 "ทองคำ"ระยะยาวแนะนำถือหลากปัจจัยเอื้อ


ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นต่อเนื่อง โดยเป็นการเปิดกระโดดในช่วงเช้าก่อนที่จะเริ่มถูกขายทำกำไรกลับลงมาในช่วงชั่วโมงแรกของวัน ซึ่งดัชนีได้ซึมลงมาสู่แดนลบและดีดกลับขึ้นมาไม่ได้อีกเลยจนกระทั่งปิดตลาด ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเข้าสู่ช่วงสุดสัปดาห์และสถานการณ์ไวรัสระบาดที่ยังมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอีกเหตุผลหนึ่ง คือภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งถูกซ้ำเติมจากรายได้ของนักท่องเที่ยวจีนที่หดหาย คาดว่าสถานการณ์นี้ไม่จบลงง่ายๆและรวดเร็วแน่นอน อาจส่งผลกระทบต่องบไตรมาสหนึ่งอีกด้วย 


 
 
 
ดังนั้นวันนี้ (3 ก.พ.)หากดัชนียังประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,520 จุดไม่ได้ ดัชนียังน่าจะซึมลงหรือแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป แนวรับ 1,507 จุด แนวต้าน 1,532 จุด 

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น DELTA ซึ่งมีแนวรับ 53.50 บาท และมีแนวต้าน 55.50 , 56.25 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน และเป็นการทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์อีกด้วย ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายยังคงสม่ำเสมอ หากวันนี้ ระดับราคาถอยกลับลงมาแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 53.50 บาทอีกยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 55.50 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 56.25 บาทต่อไป

นอกจากนี้ยังมี หุ้น SISB มีแนวรับ 9.85-9.80 บาท และแนวต้าน 10.10-10.30 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ได้อีกครั้งพร้อม วอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก อีกทั้งระดับราคายังประคองตัวปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน มีโอกาสที่ระดับราคาจะขยับขึ้นทำNew high ได้ หากวันนี้ระดับราคาดีดกลับผ่านเส้น BollingerTop แถวๆ 10.10 บาทได้อาจได้ลุ้นขึ้นต่อถึงแถวๆ 10.30 บาทต่อไป แนวรับยังอยู่ที่เดิมแถวๆ 9.85-9.80 บาท

และหุ้น AUCT ซึ่งแนวรับ 6.50-6.45 บาท และมีแนวต้าน 6.65 , 6.75-6.80 บาท ระดับราคาดีดกลับขึ้นต่อเนื่องปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ โดยในระหว่างวันดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้อีกด้วย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ MACD กำลังไต่ระดับช้าๆ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.50-6.45 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 6.65 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 6.75-6.80 บาทต่อไป

ขณะที่ภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 11.00 น วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,572.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,571.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นเล็กน้อยราว 1.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ปัจจัยหนุนจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผันผวนน้อยลงจากสัปดาห์ก่อนแต่ยังปรับขึ้นต่อเนื่องได้อยู่ โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,563.30– 1,588.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาทองคำในช่วงต้นสัปดาห์ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรสหรัฐและทองคำ เป็นที่พักเงินได้อย่างดีสำหรับนักลงทุน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวทะลุสูงกว่า 9,800 รายมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัด SARS ในอดีตไปแล้ว และผู้เสียชีวิตอยู่ประมาณ 213 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวจีนในประเทศจีนทั้งหมด

ราคาทองคำโลกในช่วงปลายสัปดาห์ย่อลงบ้างเล็กน้อยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐหรือ FOMC นั้น มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศรายสัปดาห์ออกมา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทำให้ราคาทองคำมีแรงขายออกมาบ้างแต่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ดี

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอ่อนค่ามากถึง 0.58 บาทต่อดอลลาร์ ได้รับผลกระทบจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังเกิดไวรัสโคโรน่าระบาดในโซนเอเชีย และเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรสหรัฐ  ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.140 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.560 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.600-31.275  บาทต่อดอลลาร์

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนระยะสั้นหลังจากที่แนะนำให้สะสมซื้อแถว 1,545 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มา ราคาขึ้นมาถึงเป้าหมายระยะสั้นแถว 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เรียบร้อยแล้ว คนที่ยังไม่ได้ขายทำกำไรยังถือ Let Profit Run ต่อได้ เป้าหมายถัดไปอยู่บริเวณ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนใครขายไปแล้ว สามารถเข้าซื้ออีกรอบแถว 1,565-1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุน 

สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไม่ใช่เพียงไวรัสโคโรน่าหรือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่ทำให้ทองคำน่าสนใจ นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำแต่เศรษฐกิจในหลายประเทศหลักๆยังไม่ฟื้นตัวได้ดีชัดเจน ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงจากปัญหาด้านเศรษฐกิจได้อีกในอนาคต ทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากตราสารทางการเงินหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ก.พ. 2563 เวลา : 08:20:06
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 12:10 pm