.jpg)
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ธนาคารออมสินเร่งหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหาแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับข้าราชการ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการช่วยผ่อนคลายภาระของคนไทย โดยให้ไปเร่งพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวสามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี การดำเนินการทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ภายใต้กรอบและกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม และได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินดูแลเศรษฐกิจฐานราก โดยการช่วยพัฒนาให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงวิสาหกิจชุมชน
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าหลังจากนี้ธนาคารออมสินจะเข้ามาหารือกับกระทรวงการคลังถึงรูปแบบในการปรับโครงสร้างหนี้ของข้าราชการ ซึ่งกระทรวงการคลังก็พร้อมพิจารณาในส่วนที่จำเป็นและเหมาะสม โดยที่ผ่านมาได้เคยหารือเรื่องดังกล่าวกับ ธปท.แล้ว ซึ่งธปท.ให้ความสนใจ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับระบบการเงิน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่าธนาคารฯคาดว่าจะเสนอแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการให้กระทรวงการคลังพิจารณาในเบื้องต้นได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และมาตรการจะออกมาอย่างชัดเจนและมีผลบังคับใช้ภายใน 1 เดือน เบื้องต้นจะเป็นการยืดเวลาการชำระหนี้และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรูปแบบเครดิตเงินคืน เพื่อใช้ในการหักเงินต้นให้กับลูกหนี้ที่มีการผ่อนชำระหนี้ที่มีสัดส่วนประมาณ 90% ของจำนวนลูกหนี้ข้าราชการที่มีทั้งหมด
ปัจจุบันบุคลากรภาครัฐที่มีสินเชื่อกับธนาคารออมสินมีทั้งสิ้น 1,183,182 ราย เป็นข้าราชการพลเรือน/พนักงานรัฐวิสาหกิจรวม 600,129 ราย คิดเป็น 51% และบุคลากรทางการศึกษา 489,060 ราย หรือคิดเป็น 41% ทหาร 48,052 ราย คิดเป็น 4% และตำรวจ 45,941 ราย หรือคิดเป็น 4% โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็นเงินกู้คงเหลือ 629,138 ล้านบาท เป็นเงินกู้ของข้าราชการพลเรือน/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 185,722 ล้านบาท และบุคลากรทางการศึกษา 394,927 ล้านบาท ตำรวจ 28,064 ล้านบาท และทหาร 20,425 ล้านบาท
.jpg)
ข่าวเด่น