เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
สศค.เผย ก.พ. 63 ท่องเที่ยวชะลอตัวทุกภูมิภาคแต่ยังมีสัญญาณบวกจากบริโภค-ลงทุนเอกชน


เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2563ทุกภูมิภาคได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างไรก็ดีเศรษฐกิจภาคตะวันออกและภาคใต้ยังมีสัญญาณบวกจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน


นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่า“เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทุกภูมิภาคได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคชะลอตัวลง อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจภาคตะวันออกและภาคใต้ยังมีสัญญาณบวกจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน”โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้

ภาคตะวันออก ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังขยายตัวได้จากภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร ส่วนหนึ่งได้รับผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การกระตุ้นการลงทุนผ่านมาตรการภาษีและสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานจากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงสะท้อนจาก จำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนที่ลดลงที่ร้อยละ -41.2 และ -47.2ต่อปี ตามลำดับ
 
โดยเป็นการลดลงทั้งนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติและคนไทย อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ยังคงอยู่เหนือระดับ 100 เป็นเดือนที่ 28 ติดต่อกันที่ระดับ 109.1 สำหรับด้านอุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้จากภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อปี สะท้อนถึงการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในภูมิภาคที่ขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งเนื่องจากรายได้เกษตรกรขยายตัวสูงถึงร้อยละ 26.1 ต่อปี
 
นอกจากนี้การลงทุนภาคเอกชนวัดจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ มีเงินลงทุนอยู่ที่ 2,442.8 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 39.2 ต่อปีจากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี จำนวน 1,343 ล้านบาทจากโรงงานประกอบชิ้นงานที่ทำด้วยโลหะ เป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังมีเงินลงทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจำนวน 2,707.1ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.6 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากพลาสติกด้วยเงินลงทุนจำนวน1,389 ล้านบาท ในจังหวัดระยอง โดยมีมาตรการภาครัฐสนับสนุน อาทิ การกระตุ้นการลงทุนผ่านมาตรการภาษีและสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ร้อยละ 0.7 ต่อปีและอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8

ภาคใต้ ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังขยายตัวได้ดีภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์2563 พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานจากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2563  พบว่าจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนที่ลดลงที่ร้อยละ -39.8 และ -44.9 ต่อปีตามลำดับ โดยเป็นการลดลงทั้งนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติและคนไทยสำหรับด้านอุปสงค์ภายในประเทศขยายตัว จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ที่ขยายตัวร้อยละ 8.5 ต่อปีและจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวร้อยละ 2.7 ต่อปีสอดคล้องกับรายได้เกษตรที่ขยายตัวร้อยละ 8.8 ต่อปี นอกจากนี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวโดดเด่นจากเงินลงทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจำนวน 889.1 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 26.8 ต่อปีจากการลงทุนในโรงงานผลิตถุงมือและลูกโป่งจากยางพาราจำนวน 423.4 ล้านบาทในจังหวัดพัทลุง เป็นสำคัญ รวมถึงจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ยังสามารถขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อปี ส่วนด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 0.3 ต่อปีและอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.4

ภาคตะวันออกเฉียงเหนื ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังขยายตัวได้จาก การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่าเครื่องชี้ด้านอุปทานโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงสะท้อนจากจำนวนของผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ลดลงร้อยละ-9.4 และ -9.8 ต่อปี ตามลำดับโดยเป็นการลดลงทั้งนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติและคนไทย อย่างไรก็ดีด้านอุปสงค์ภายในประเทศมีสัญญาณการขยายตัวจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั่วไปสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 ต่อปีต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ต่อปี ขณะที่การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนชะลอตัวสะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ยังคงลดลงร้อยละ -10.8 และ -9.5 ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลงร้อยละ–17.6 และ -3.1 ต่อปี ตามลำดับ
 
สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัวจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 อยู่ที่5,032.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 710.3 ต่อปีจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลงร้อยละ -21.7 ต่อปี จากการลงทุนในโรงสีข้าวในจังหวัดบุรีรัมย์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ดีจำนวนรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ยังคงลดลงที่ร้อยละ -15.9 และ -7.3ต่อปี ตามลำดับ ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลงร้อยละ -17.2 และ -16.1ต่อปี อย่างไรก็ดี ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.9

กทม.และปริมณฑลได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชนสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ที่ขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่อง จากเดือนก่อนหน้าทั้งจากจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลงที่ร้อยละ -50.1 และ -51.3ต่อปี ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลงร้อยละ -1.2 และ -3.2 ต่อปีตามลำดับ โดยเป็นการลดลงทั้งจากชาวต่างชาติและคนไทย
ในขณะที่ด้านอุปสงค์ภายในประเทศสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชนสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 และ 14.7 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดีการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนลดลงจากจำนวนรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ชะลอต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ-10.0 และ -1.5 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนสะท้อนจากเงินลงทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการและได้รับอนุญาตประกอบกิจการลดลงร้อยละ -54.3 และ -24.0 ต่อปี ตามลำดับสอดคล้องกับจำนวนรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ลดลงร้อยละ -14.6 และ-6.3 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี
สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ร้อยละ 0.6 ต่อปีและอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.9

ภาคตะวันตก ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาคเอกชนจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มและได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่ขยายตัวได้ดีในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าทั้งจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลงร้อยละ -24.5 และ -29.4 ต่อปีตามลำดับ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนจากเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่สะท้อนการขยายตัวได้ดีจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการและเงินลงทุนได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการซึ่งกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ643.4 และ 25.6 ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -5.2 ต่อปี -48.3 ต่อปีตามลำดับ
 
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์จากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนกลับมาขยายตัวจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อปีอย่างไรก็ดี การจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าของประชาชนสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ลดลงต่อเนื่องที่ร้อยละ -10.8ต่อปี ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7

ภาคกลาง ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากด้านอุปสงค์ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสะท้อนจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ รายได้เกษตรกรและจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าทั้งจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลงที่ร้อยละ -33.4 และ -34.4ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนจากด้านอุปสงค์ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ขยายตัวร้อยละ 15.1 ต่อปีสอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อปี ใน
 
ขณะที่การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนลดลงสะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ลดลงลงที่ร้อยละ-23.8 และ -11.0 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ24.3 ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 12.5 ต่อปีสำหรับด้านเสถียรภาพภายใน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่อยู่ที่ร้อยละ0.4 ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ร้อยละ 2.0

ภาคเหนือ ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยวแต่ยังสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณราคาคงที่ ที่ขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2563  พบว่า ด้านอุปทานโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาสะท้อนจากจำนวนของผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ลดลงร้อยละ
-18.3 และ -25.8 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลงร้อยละ -2.3 และ-4.4 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่
 
ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี อย่างไรก็ดีจำนวนรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ลดลงที่ร้อยละ -10.6 และ-6.1 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่ลดลงร้อยละ -10.2 ต่อปีในด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลงทั้งจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและก่อสร้างสะท้อนจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการและที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563  ลดลงร้อยละ-66.4 และ -71.1 ต่อปี ตามลำดับ
 
นอกจากนี้จำนวนรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ-17.1 และ -16.3 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี
และอัตราว่างงานในเดือนมกราคม 2563 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.0

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มี.ค. 2563 เวลา : 16:12:34
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 12:19 am