บล.ไทยพาณิชย์คาดSETเคลื่อนไหวในกรอบ 1260-1275 จุด โดยราคาน้ำมันปรับลงเป็นปัจจัยลบ แต่การปลด Lockdown และหวังมาตรการจาก Fed และ ECB
กลยุทธ์การลงทุน:
SET คาดวันนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบล่างที่ 1260 จุด (หากต่ำกว่า จะไหลลงต่อไปหา 1250 จุด) ซึ่งบริเวณนี้ ยังมองเป็นจุดรองรับได้ เนื่องจากตลาดยังมีปัจจัยบวกจากการปลด Lockdown และหวังมาตรการกระตุ้นต่อจาก Fed และ ECB เป็นปัจจัยหนุน อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่สะท้อนปัจจัยบวกนี้มาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้กรอบบนดูจำกัดบริเวณ 1275 และ 1285 จุด ตามลำดับ การเก็งกำไรระยะสั้นยังเน้นเล่นให้จบในวัน เนื่องจากตลาดมีความผันผวน และระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1300 จุด ส่วนจุดซื้อเพื่อถือลงทุนให้รอดัชนีพักฐานก่อน ซึ่งหากต่ำกว่า 1210 จุด จะเป็นสัญญาณที่ชัดขึ้น
ล็อคเป้าลงทุน:
- คาดว่า sentiment บวกจากการปลด Lockdown ทั่วโลก จะยังหนุนให้ SET ปรับขึ้นได้ แต่เรายังแนะนำให้ “มองบวกอย่างระมัดระวัง” เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะเกิดขึ้นเร็วและแรงเกินไป เรามองว่าที่ดัชนี 1300 จุด ทำให้ระดับ Valuation เริ่มตึงตัวแล้ว นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ trading เล่นสั้นจบในวัน ในหุ้นที่คาดกำไรปีนี้ยังเติบโตได้ และยังมี upside สูง เช่น BCH, AWC, GPSC
- เรายังคงคําแนะนําให้เข้าซื้อหุ้น defensive และคุณภาพกำไรสูง คือ BDMS, BEM, BTS, CPF, MINT ส่วนหุ้นแนะนําเชิงกลยุทธ์เมื่อตลาดขาขึ้นรอบใหม่ คือ HANA, IVL, KCE, SCC, SPRC, TOP โดยให้ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปปรับเพิ่มขึ้น หนุนจากคาดหวังปลด Lockdown โดยสหรัฐบางรัฐและยุโรปเริ่มกลับมาทยอยเปิดเมือง นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าการประชุม Fed (ประชุมวันนี้วันแรก) และ ECB (ประชุมวันพฤ.) จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม หลังจากวานนี้ BOJ อัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มสภาพคล่องผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและเอกชน โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วน DJIA-F ทรงตัว
# ราคาน้ำมัน WTI ร่วงหนัก กังวลคลังเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ โดย WTI-F ลดลงถึง 25% หนักกว่า Brent-F ที่ลดลง 7% จากความกังวลสต็อกน้ำมันที่เมืองคุชชิ่งอยู่ที่ 59.7 ล้านบาร์เรล เหลืออีกเพียง 25 ล้านก็จะเต็มความจุ ขณะที่อุปสงค์หดตัวจากการแพร่ระบาด COVID-19
# ประชุม ครม.วันนี้ พิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่ ศบค. เสนอโดยจะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน สิ้นสุด 31 พ.ค. แต่จะเริ่มผ่อนปรน Lockdown ให้กับบางกิจการ แบ่งเป็น 4 สี 4 ระยะ ห่างกัน 14 วัน เริ่มตั้งแต่ 4 พ.ค. นอกจากนี้จะยกเลิกวันหยุดทั้งหมดในเดือน พ.ค. และจะชดเชยภายหลัง ขณะที่การแพร่ระบาดในไทยดีขึ้น วานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่าสิบรายเป็นวันแรก เช่นเดียวกับ กทม. ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อวันแรก
Wealth Strategy แนะนำ Microsoft ที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากมาตรการ lockdown เนื่องจากไม่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่การผลิต
บทวิเคราะห์วันนี้
GGC – กำไร 1Q63 ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว
WHAUP – คาดกำไรดีขึ้น YoY ใน 1Q63
ข่าวเด่น