กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET ปรับลง โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 รอบที่สอง หลังหลายประเทศที่คลาย Lockdown เริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น สร้างความกังวลต่อไทยที่เริ่มคลาย Lockdown เช่นกัน ขณะที่ตลาดหุ้นขึ้นสะท้อนสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลาย ดังนั้น หากสถานการณ์กลับมาลุกลาม จะทำให้ดัชนีปรับลงแรง ด้านแนวโน้ม SET มองเข้าสู่ช่วงการพักฐาน โดยกรอบบนจำกัดที่ 1300 จุด ซึ่งมีมูลค่าทางพื้นฐานที่ตึงตัว ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1270-1280 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ กลยุทธ์ ขายลดพอร์ตโดยเฉพาะที่มีต้นทุนแถว SET 1200 จุดขึ้นไป การเก็งกำไรเล่นสั้นจบในวัน ซื้อลงทุนรอต่ำกว่า 1200 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- การปรับขึ้นของตลาดมาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เราเชื่อว่า SET สะท้อน sentiment เชิงบวกไปหมดแล้ว จากนี้ให้ระมัดระวังความเสี่ยง SET ปรับฐาน โดยเฉพาะเรื่องการระบาดรอบสองหลังผ่อนคลาย lockdown ซึ่งเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศ นอกเหนือไปจากความเสี่ยงเศรษฐกิจที่คาดหดตัวสูงในปีนี้ และประมาณการกําไรของ บจ. ที่จะลดลงได้อีก
- ยังแนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ตเมื่อ SET ปรับขึ้น ส่วนจุดที่เหมาะสมที่จะเข้าไปทยอยสะสมรอบใหม่ คือ SET บริเวณ 1200 จุดลงไป สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถ trading เล่นรอบ จบในวัน แนะนำ GPSC ราคาหุ้นยังมี upside สูงกว่า 30% เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดําเนินงานที่มั่นคง และผลกระทบจากภัยแล้งมีจํากัด โดยให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัว นอกจากนี้เรายังชอบหุ้นคุณค่าอย่าง WHAUP และหุ้น Laggards อย่าง BTSGIF
ประเด็นสำคัญ
# DJIA ลดลง กังวลโควิดระบาดรอบสองหลังคลาย Lockdown ไม่นาน
โดยรองปธน.และจนท.ทำเนียบขาวหลายคนติดเชื้อ เช่นเดียวกับจีน เกาหลีใต้ และเยอรมนีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เช่นกันหลังเพิ่งคลาย Lockdown แต่หุ้นสุขภาพและหุ้นเทคโนโลยีปรับขึ้นช่วยพยุงตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียและ DJIA-F เช้านี้ปรับลดลงเล็กน้อย
# ราคาน้ำมันร่วง แม้ซาอุดิอาระเบียจะลดกำลังผลิตลงอีก 1 ล้านบาร์เรล
เริ่มตั้งแต่ 1 มิ.ย. ซึ่งจะทำให้ซาอุดิฯ ลดกำลังการผลิตทั้งสิ้น 4.8 ล้าน และกำลังการผลิตจะลงมาอยู่ที่ 7.492 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำสุดในรอบ 18 ปี โดยปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน มาจากความกังวลด้านอุปสงค์จากการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19
# จำนวนผดส.และผู้ใช้ทางด่วน เม.ย. ของ BEM ดีกว่าคาดเล็กน้อย
ผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้ทางด่วนลดลง 50%YoY แต่ดีกว่าที่เราคาดว่าจะลดลง 60%YoY (4 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 20.2%YoY) ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการ MRT ลดลง 73.5%YoY ใกล้เคียงคาดที่ 70%YoY (4 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 15.2%YoY) เราคาดจำนวนผดส.และผู้ใช้ทางด่วนทำจุดต่ำสุดไปแล้วและจะฟื้นตัวในเดือน พ.ค.
Wealth Strategy
สะสมลงทุนระยะยาวใน "VISA" หุ้นต่างประเทศที่เติบโตตามการชำระเงินแบบดิจิทัลและสังคมไร้เงินสด
บทวิเคราะห์วันนี้
PTT – 1Q63: ขาดทุนสุทธิน้อยกว่าคาด
ข่าวเด่น