กลยุทธ์การลงทุน:
SET ยังคงได้รับปัจจัยบวกภายนอก ทำให้ยังไม่แสดงการพักฐานตามที่คาด โดยเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรปปรับขึ้นโดดเด่นจากความหวังเรื่องวัคซีน และคำกล่าวของประธานเฟดว่าจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อพยุงเศรษฐกิจ หนุนภาวะตลาดแบบ risk-on โดยเงินไหลเข้าตลาดหุ้น และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น จะหนุน SET ขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือ 1300 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1317 และ 1327 จุด ซึ่งเรายังต้องเตือนใช้ความระมัดระวังในการเข้าซื้อหุ้นตามในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดมีมูลค่าพื้นฐานที่ตึงตัว ดังนั้น ยังคงกลยุทธ์ ซื้อเล่นสั้นจบในวัน หรือในลักษณะ Selective Buy และยังเน้นใช้โอกาสที่ดัชนีปรับขึ้นขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ต
ล็อคเป้าลงทุน:
- สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงยังคงให้ trading จบในวัน คาดวันนี้กลุ่มพลังงานจะยังคงผลักดันตลาด เลือกเก็งกำไรหุ้นน้ำมันที่เรายังมีคำแนะนำ ซื้อ และมี upside เปิดกว้าง คือ PTT (upside 22%) และ BCP (upside 46%) ขณะที่พัฒนาการเชิงบวกจากวัคซีน น่าจะเป็น sentiment ที่ดีต่อหุ้นโรงแรม เก็งกำไร ERW
- สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เลือกหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 คาดว่าเติบโตได้สวนทางตลาด และ EPS ปี 63 ไม่มีการปรับประมาณการลง หรือปรับลงน้อย แนะนำ CPF (คาด 2Q63 กำไรโต YoY และ EPS63 ปรับขึ้น 7%) และ GPSC (คาด 2Q63 กำไรโตทั้ง YoY, QoQ และ EPS63 ปรับลงเพียง 11%)
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยาน หนุนจากความคาดหวังวัคซีนคืบหน้า
โดย บ. Moderna ระบุผลการทดสอบวัคซีนให้กับอาสาสมัครในเฟส 1 มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัฒนาให้ป้องกันโรคได้ หนุนกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน เรือสำราญ ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งยังหนุนจากคำกล่าวของปธ.Fed ที่เป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียและ DJIA-F เช้านี้ปรับขึ้น
# ราคาน้ำมันพุ่งแรง คาดหวังผู้ผลิตขยายเวลาตัดลดกำลังผลิต
โดยคาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะขยายเวลาลดกำลังผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง พ.ค.-มิ.ย. ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐสัปดาห์ล่าสุดลดลงอีก 34 เหลือ 258 แท่น ต่ำสุดตั้งแต่ 52 นอกจากนี้การผ่อนคลาย Lockdown หนุนอุปสงค์ขึ้น นักลงทุนจับตาสัญญาน้ำมัน WTI มิ.ย. ที่จะซื้อขายวันนี้วันสุดท้ายว่าจะผันผวนหรือไม่
# กำไรสุทธิ SET 1Q63 ที่ 1.09 แสนลบ. -59.3%YoY -50.6%QoQ
โดยกลุ่มชิ้นส่วนฯ กำไรโตเด่น +9%YoY +134%QoQ กลุ่มที่กำไรลดลงอย่างมีนัยฯ คือ ขนส่ง (-66%YoY -62%QoQ) อสังหาฯ (-37%YoY -57%QoQ) ICT (-31%YoY -43%QoQ) รับเหมา (-74%YoY -17%QoQ) ส่วนกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรฯ ขาดทุนในไตรมาสนี้
Wealth Strategy
ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพดี TBEV บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 0.85 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ระดับ “AA”
บทวิเคราะห์วันนี้
SAWAD – สัดส่วนเงินสำรองสูงขึ้น = ความเสี่ยง downside ลดลง
TRUE – 1Q63: ผลประกอบการแย่กว่าคาด
ข่าวเด่น