กลยุทธ์การลงทุน:
SET ได้รับปัจจัยบวกภายนอก ทำให้ยืดระยะเวลาที่จะพักฐานออกไป และในภาพรวมแม้มองว่ามีโอกาสขึ้นหาแนวต้านเป้าหมายถัดไปที่ 1322 1332 และ 1348 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังมองในที่สุดการพักฐานจะเกิดขึ้น และการยืนเหนือ 1300 จุด ในรอบนี้ จะไม่มั่นคง เนื่องด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ตึงตัว และสัญญาณเทคนิคที่ไม่สนับสนุน ส่วนวันนี้ คาดพักตัวก่อน เพื่อลดความร้อนแรงของเมื่อวาน โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1290-1300 จุด ส่วนภาพรวม หากต่ำกว่า 1290 จุด จะเป็นสัญญาณลบ กลยุทธ์ ซื้อเล่นสั้นจบในวัน หรือในลักษณะ Selective Buy และยังเน้นใช้โอกาสที่ดัชนีปรับขึ้นขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตตามแนวต้าน
ล็อคเป้าลงทุน:
- ให้หลีกเลี่ยงในหุ้นที่ปรับขึ้นมาแรงจากกระแสเก็งกำไร เช่น THAI แม้จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่ยังคงต้องติดตามรายละเอียดของแผนฟื้นฟูฯ รวมถึงกลยุทธ์และระยะเวลาที่จะใช้พลิกฟื้นธุนกิจ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ท่ามกลางอุตสาหกรรมการบินที่ไม่เอื้ออำนวย
- สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เลือกหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 คาดว่าเติบโตได้สวนทางตลาด และ EPS ปี 63 ไม่มีการปรับประมาณการลง หรือปรับลงน้อย แนะนำ GPSC (คาด 2Q63 กำไรโตทั้ง YoY, QoQ และ EPS63 ปรับลงเพียง 11%) รวมทั้ง BDMS ที่คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H20 หลังจากสถานการโควิด-19 คลี่คลายลง จากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่สะสมอยู่
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐพักตัว หลังมีข้อสังเกตเรื่องประสิทธิภาพวัคซีน
โดย STAT News ระบุผลทดลองวัคซีนของ Moderna ยังไม่ชัดเจนพอ หักล้างประเด็นบวกจากถ้อยแถลงเจอโรม พาวเวลล์ ปธ.Fed และสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง ต่อสภาคองเกรส โดยปธ.Fed ระบุว่า Fed พร้อมจะใช้ทุกเครื่องมือทางการเงินที่มีเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ส่วนมนูชินคาดว่าศก.จะฟื้นภายในไตรมาส 3 หรือ 4 และอาจจะลดภาษีให้กับชนชั้นกลาง ด้านตลาดหุ้นเอเชียและ DJIA-F เช้านี้ปรับขึ้นได้เล็กน้อย
# ราคาน้ำมันปรับขึ้นเป็นวันที่ 4 หนุนจากอุปทานลด-อุปสงค์เพิ่ม
โดยกลุ่ม OPEC+ ลดการส่งออกน้ำมันในช่วงครึ่งเดือนแรกของ พ.ค. เช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐที่ EIA คาดว่ากำลังการผลิต Shale Oil จะลดเหลือ 7.8 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน มิ.ย. ต่ำสุดตั้งแต่ ส.ค. 61 ด้านอุปสงค์ทยอยฟื้นตัว ล่าสุดอินเดียมีอุปสงค์มากขึ้นในครึ่งเดือนแรก พ.ค.
# ประชุม กนง. วันนี้ ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ 0.5%
โดยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดย Bloomberg ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าคณะกรรมการฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ 0.5% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดผลกระทบจาก COVID-19
Wealth Strategy
แนะนำหุ้นกู้ PTTGC บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จeกัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 1.3 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ระดับ “AA+”
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – ระวัง Gap!
GPSC – Upside ยังน่าสนใจ; คงคำแนะนำ “ซื้อ”
MINT – เพิ่มทุนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน
THAI – เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย
ข่าวเด่น