หุ้นทอง
บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ : SET เริ่มเผชิญแรงขาย หลังมูลค่าตึงตัว ในภาพรวมติดตาม 1374 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณปรับฐาน


กลยุทธ์การลงทุน:

SET เริ่มเผชิญแรงขาย หลังปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดย SET ที่มีมูลค่าตึงตัว กระตุ้นให้นักลงทุนสถาบันในประเทศที่เข้าซื้อมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ให้เริ่มขายทำกำไร นอกจากนี้เห็นสัญญาณลบจาก SET50 Future ที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ มีสถานะ Short สุทธิควบคู่ไปด้วย ดังนั้นในภาพรวมให้ติดตามจุดสำคัญ บริเวณ 1374 จุด หากต่ำกว่า จะส่งสัญญาณว่าการปรับฐานของ SET เกิดขึ้นแล้ว ด้านแนวโน้มวันนี้ มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ1390-1450 จุด เพื่อรอผลประชุมเฟดในคืนนี้ กลยุทธ์ ยังคงแนะนำทยอยขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ต จะซื้อใช้ การ Selective Buy หรือซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยเล่นจบในวัน เนื่องจากตลาดมีมูลค่าที่ตึงตัว และมีภาวะการเก็งกำไรสูง 
 

ล็อคเป้าลงทุน:

- ดัชนีปรับลงแรง แม้อาจมีการรีบาวด์ในช่วงสั้นๆ แต่ยังมองว่าน่าจะแกว่งตัวเพื่อลงต่อ ยังคงแนะนำลดน้ำหนักลงทุน 50% ในหุ้นที่ปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังสามารถถือลงทุนในหุ้นผู้นำธุรกิจที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง คือ AOT BDMS ADVANC CPALL BTS และหุ้น Value ที่ยังมี Valuation ไม่สูงเกินไปนัก คือ AMATA SCC WHAUP DIF

-ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำ Trading หุ้นในกลุ่ม Cyclical Rotation แนะนำ SCCC ซึ่งราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2563 เพียง 14.5 เท่า หรือที่ประมาณ -1SD ของ PE เฉลี่ย 10 ปี ขณะที่แนวโน้มกําไรจะเติบโตดีขึ้นใน 2H63 หลังจากสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้

ประเด็นสำคัญ

# DJIA, S&P500 ร่วง หยุดสถิติปรับขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ

นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังจาก S&P500 ปรับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือน มี.ค. กว่า 47% จากความคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังการปลด Lockdown นอกจากนี้ยังจับตาการประชุม Fed ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมวันที่ 2 ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับลงต่อ

# ราคาน้ำมันฟื้นตัว แต่การปรับขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด

ปัจจัยหนุนราคามาจากลิเบียเกิดเหตุสุดวิสัยในการส่งออกน้ำมันจากแหล่ง Sharara อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาน้ำมันยังมีกรอบจำกัด หลังจากที่ซาอุดิอาระเบีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศจะไม่ตัดลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1.18 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปในเดือน ก.ค.

# ผลประชุม Fed คืนนี้ คาดยังคงดอกเบี้ย และใช้มาตรการ QE ต่อไป

โดยคาด Fed ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบ 0 ถึง 0.25% ต่อไปจนกว่าความเชื่อมั่นทางศก.จะกลับมา รวมทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัว ขณะที่ Dot plot แสดงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.125% ไปจนถึงสิ้นปี 2565 ส่วนระยะยาวอยู่ที่ 2.4% ลดลงจาก 2.5% ขณะที่มาตรการ QE แบบไม่จำกัดวงเงินนั้นคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านเหรียญในช่วงครึ่งปีหลังนี้

Wealth Strategy

ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพ "TBEV" บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตหุ้นกู้ "AA" อายุคงเหลือ 2-3 ปี

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มปิโตรเคมี – ต้นทุนแนฟทาที่สูงขึ้นกดดันให้ส่วนต่างราคาหดตัวลง

LastUpdate 10/06/2563 12:19:35 โดย : acnews
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 4:55 pm