การค้า-อุตสาหกรรม
กรมพัฒน์ฯ เปิดบ้าน ...เชิญพันธมิตร 5 เทรดเดอร์ ร่วมคัดสรรสินค้า OTOP Select 3-5 ดาว


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดบ้านทันทีหลังโควิด-19 บรรเทาเบาบาง เชิญ 5 พันธมิตร .. คิงเพาเวอร์ เซ็นทรัล เดอะมอลล์ สยามพิวรรธน์ และ โอทอปคอมเพล็กซ์พุแค ร่วมคัดสรรสินค้า OTOP Select 3-5 ดาว ขึ้นจำหน่ายบนห้าง พร้อมเปิดตลาดออนไลน์ส่งโอทอปไทยโกอินเตอร์ไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศ ปีนี้สินค้าเลือกยาก...สวยและมีมาตรฐานทุกชิ้น ต้นเหตุ...มาจากช่วงโควิด-19 ระบาด ผู้ประกอบการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ระดมพลังสมองพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้โดนใจตลาดมากที่สุด


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดบ้านเชิญหน่วยงานพันธมิตร 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์พุแค จังหวัดสระบุรี ร่วมคัดสรรผลิตภัณฑ์ OTOP Select 3 - 5 ดาว จำนวนกว่า 211 รายการ ขึ้นจำหน่ายบนศูนย์การค้า โดยปีนี้ นอกจากเทรดเดอร์จะนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรขึ้นจำหน่ายบนห้างแล้ว ยังได้เปิดตลาดออนไลน์เพื่อนำสินค้าจำหน่ายตลาดต่างประเทศด้วย ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สินค้า OTOP Select ของไทย จะได้ขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ”
 

“การคัดสรร OTOP Selectในครั้งนี้ จะพิจารณาถึงศักยภาพ / ความพร้อมของผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ทั้งด้านการตลาด มาตรฐาน คุณภาพผลิตภัณฑ์ และการสื่อถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น จำแนกสินค้าออกเป็น 4 ประเภท คือ 1) กินดี (Eat well) ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม 2) อยู่ดี (Live well) ได้แก่ ของใช้ ของที่ระลึก 3) สวยดี (Look well) ได้แก่ ครีมบำรุง ผลิตภัณฑ์สปา และ 4) ดูดี (Dress well) ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ โดยผลิตภัณฑ์ OTOP Select ทั้ง 211 รายการที่เข้าร่วมการคัดสรรฯ ได้ผ่านเกณฑ์การพัฒนาศักยภาพด้านการตลาด เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ที่สื่อถึงภูมิปัญญาประจำท้องถิ่น และมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ทำให้การคัดสรรผลิตภัณฑ์ OTOP Select ครั้งนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงาม มีมาตรฐานและโดนใจตลาดเกือบทุกชิ้น ซึ่งแสดงถึงความเข้าใจตลาดของผู้ประกอบการมากขึ้น โดยมีการใช้ทฤษฎีการตลาดนำการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด”
 

รองอธิบดีฯ กล่าวต่อว่า “นอกจากผลิตภัณฑ์ OTOPSelect ที่ผ่านการคัดสรรในครั้งนี้ จะได้รับโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดไปจำหน่ายยังสถานที่ต่างๆ เช่น สนามบิน ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังจะได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความนิยมในสินค้าท้องถิ่น และนำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้ชุมชนต่อไป”

 
“นอกจากนี้ ประมาณสิงหาคม 2563 กรมฯ เตรียมจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางการค้า ในรูปแบบคลัสเตอร์รายพื้นที่และกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประกอบธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการส่งต่อเทคโนโลยีและกลุ่มลูกค้าระหว่างกันเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ จะสร้างโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้นโดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการจัดงานแสดงสินค้าของดีทั่วไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้การเข้าสู่ช่องทางการตลาดทั้งการเจรจาและการออกร้าน ขณะเดียวกัน ได้มีการผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า รวมถึงนำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ และการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการตลาดออนไลน์ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน สอดรับกับกระแสบริโภคนิยมที่ปัจจุบันมักใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะการทำการประชาสัมพันธ์และการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ ที่สามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากขึ้น”
 

“การพัฒนารูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมตลาดและวิถีชีวิตยุคใหม่ การสร้างโอกาสทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสามารถกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการเชื่อมโยงสู่วิถีชุมชนในแต่ละพื้นที่ การสร้างภาพลักษณ์สินค้าเพื่อกระตุ้นการรับรู้ผลิตภัณฑ์ มีการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจต่อผลิตภัณฑ์ และทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความต้องการบริโภคของกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ รับรู้ และพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โอทอปของไทยไปใช้อุปโภค/บริโภคในชีวิตประจำวัน ตลอดจนเกิดความภักดีต่อตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมที่จะกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งจะส่งผลต่อยอดขายผลิตภัณฑ์โอทอปโดยรวม ผลักดันให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม สินค้าดีมีคุณภาพต้องได้รับโอกาสในการขยายตลาดและมีตลาดรองรับ รวมถึง ต้องมีการประชาสัมพันธ์ที่ดีเพื่อสร้างการจดจำ ซึ่งจะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคด้วยเช่นกัน” รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร : 0 2547 5950 สายด่วน 1570 และ e-Mail : otop.dbd@gmail.com และ www.dbd.go.th

บันทึกโดย : acnewsวันที่ : 20 มิ.ย. 2563 เวลา : 10:36:02
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 10:07 pm