กลยุทธ์การลงทุน:
แนวโน้มตลาดยังมีความผันผวน เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวกและลบเข้ามามีอิทธิพลต่อตลาด โดยปัจจัยบวกเรื่องความคืบหน้าวัคซีนที่มีกระแสข่าวเข้ามาเป็นระยะ และสภาพคล่องในระดับสูงจากการอัดฉีดเงินของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของ COVID ระลอกสอง ที่สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ด้านแนวโน้ม SET กลับมาชะลอตัว โดยวันนี้ให้ติดตามแนวรับที่ 1335-1340 จุด หากยืนได้ คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยมีแนวต้านที่ 1350 และ 1358 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณที่ดี ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน การเข้าตลาดในช่วงนี้ ให้ใช้การเก็งกำไรระยะสั้นดูจะเหมาะสมสุด (ซื้อและขาย ไม่ใช่ซื้อถือ) ส่วนพอร์ตลงทุนให้รอซื้อสะสมที่แนวเดิมบริเวณ 1300 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- หุ้นในพอร์ตเก็งกำไรระยะสั้นที่เรายังแนะนำถือ ได้แก่ ADVANC INTUCH BCH CPF CKP PRM IVL และ LPN โดยแม้ SET ช่วงนี้จะชะลอตัวลง แต่เป็นการลดความร้อนแรงของสัญญาณเทคนิคในระยะสั้น ส่วนภาพรวม ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะถัดไป ทำให้ยังมีโอกาสสำหรับการถือเพื่อหวังกำไรได้
- หุ้นแนะนำ เลือก BAM คาดงบฯ 2Q63 อ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อย QoQ หลังจากกลับมาจัดประมูลขายทอดตลาดอีกครั้งในเดือน มิ.ย. ทั้งยังมีสินทรัพย์โตต่อเนื่องจากการเข้าซื้อ NPL และ NPA ได้ในราคาถูกลงราว 5% นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีรออยู่ เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 38% พร้อมทั้งปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ และปรับราคาเป้าหมายเป็น 27 บาท
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง ผิดหวังตัวเลขภาคแรงงาน แม้ยอดค้าปลีกพุ่ง
โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 1.3 ล้านราย แย่กว่าคาดที่ 1.25 ล้านราย ขณะที่ยอดค้าปลีก มิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.5% ดีกว่าคาดที่ 5.2% ทางด้านหุ้น Tech ถูกขายทำกำไร ส่วนราคาน้ำมันปรับลดลงหลังกลุ่ม OPEC+ มีมติผ่อนคลายการตัดลดกำลังการผลิตเหลือ 7.7 จากเดิม 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ ส.ค. ถึง ธ.ค.
# ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินซื้อพันธบัตรไว้ตามเดิม
โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0% คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ ธ.พ. ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% นอกจากนี้ยังคงวงเงินซื้อพันธบัตรตามโครงการ PEPP ที่ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึง มิ.ย.64
# ประเด็นติดตามวันนี้: รายงานงบฯ 2Q63 ของ KTC และ TISCO
โดย KTC คาดกำไรอยู่ที่ 1.1 พันลบ. ลดลง -17%YoY และ -33%QoQ ส่วน TISCO คาดกำไรอยู่ที่ 1.4 พันลบ. ลดลง -22%YoY และ -6%QoQ ขณะที่หุ้นธ.พ. อื่นๆ คาดจะรายงานงบฯ มาในวันจันทร์หน้า (20 ก.ค.) ซึ่งภาพรวมกลุ่มธ.พ.เราคาดกำไรจะหดตัว -30%YoY และ -25%QoQ
Wealth Strategy
ยังชอบ GPSC หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพเติบโตดี และจะมีการรับรู้ผลประโยชน์จากการผนึกกำลังกับ GLOW ในปี 2020-2023
บทวิเคราะห์วันนี้
BAM – แข็งแกร่ง และมีผลประโยชน์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีรออยู่
TOP – คาดผลประกอบการฟื้นตัวใน 2Q63
ข่าวเด่น