หุ้นทอง
จัดพอร์ตกองทุนรวมอย่างไร เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายเก็บออมเงิน


เมื่อคุณซื้อกองทุนรวมไปแล้ว แน่นอนว่า คุณควรลงทุน และสร้างพอร์ตการลงทุนของตัวคุณเอง แม้ว่ากองทุนรวมจะมีการจัดพอร์ตกระจายการลงทุน ตามนโยบายการลงทุนแล้ว แต่กองทุนรวม ก็ยังยังไม่ได้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการลงทุนของแต่ละบุคคล

มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ คุณฐิติเมธ โภคชัย ขอบอกผ่านตรงนี้ว่า ดังนั้นการสร้างพอร์ตกองทุน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจัดสรรเงินลงทุนให้ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์การลงทุนของตัวคุณ และสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ คุณยอมรับได้
 
 
ถ้ากล่าวถึงการจัดพอร์ตกองทุน คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า มีเป้าหมายการสร้างพอร์ตกองทุนรวมเพื่ออะไร ซึ่งจะว่าไปแล้วเป้าหมายในการเก็บออมเงินมีเพียงไม่กี่อย่าง

หลักๆ คือ ถ้าเป็นเป้าหมายระยะสั้น คงหนีไม่พ้นเก็บออมเงินไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เดินทางท่องเที่ยว หรือเป็นค่ารักษาพยาบาล

ถ้าเป็นเป้าหมายระยะปานกลางก็เพื่อเตรียมแต่งงาน เรียนต่อปริญญาโท ซื้อรถ ดาวน์บ้าน

ขณะที่เป้าหมายระยะยาวเพื่อผ่อนบ้าน หรือเพื่อไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ เป็นต้น
 
เป้าหมายที่ดีต้องเหมาะสมกับช่วงระยะเวลาในการลงทุน โดยทุกการลงทุน ต้องมีกรอบระยะเวลาให้สินทรัพย์ที่ลงทุนไว้ ได้ทำงานและสร้างผลตอบแทน บางสินทรัพย์เหมาะสมที่จะลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ มีความเสี่ยงน้อย บางสินทรัพย์เหมาะสมที่จะลงทุนในระยะยาว มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูง หรือบางสินทรัพย์ เมื่อลงทุนไปแล้ว เวลาที่ต้องการปรับเปลี่ยนต้องใช้เวลามาก เพราะมีสภาพคล่องต่ำ
 
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าทุกการลงทุนต้องให้เวลา เพราะการลงทุนไม่ใช่การเสี่ยงโชคที่ไม่ต้องใช้เวลา การกำหนดช่วงระยะเวลาให้เหมาะสมกับเป้าหมาย จึงสำคัญต่อสินทรัพย์ที่จะไปลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
 
เป้าหมายระยะสั้น
 
เป้าหมายลงทุนกองทุนรวมระยะสั้น จะมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น เก็บเงินเพื่อสำรองใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือเพื่อค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

ดังนั้น กองทุนรวมที่ควรลงทุนต้องมีความเสี่ยงต่ำ มีความผันผวนน้อย และยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ ดังนั้น กองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีนโยบายเน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ได้ดี เนื่องจากมีความปลอดภัย และให้ผลตอบแทนประมาณ 1 – 2%
 
เมื่อลงทุนไปแล้ว แต่เงินลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ออมเงินแต่ละเดือนน้อยเกินไป หรือผลตอบแทนของกองทุนรวมมีความผันผวนและไม่ตรงตามเป้าหมาย ทางออก คือ ผู้ลงทุนสามารถเลื่อนเป้าหมายออกไปให้นานขึ้น เช่น จากเดิม 1 ปี เลื่อนเป็น 3 ปี หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถเลื่อนเป้าหมายได้ ผู้ลงทุนก็ต้องเพิ่มจำนวนเงินลงทุนในแต่ละเดือนให้มากขึ้น
 
เป้าหมายระยะปานกลาง
 
เป้าหมายลงทุนกองทุนรวมระยะปานกลางจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 ปี มักเป็นการเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคต เช่น เตรียมแต่งงาน เรียนต่อ ซื้อรถ ดาว์นบ้าน หรือเป็นค่าเล่าเรียนลูก

ดังนั้น เมื่อระยะเวลาการลงทุนมากขึ้น สามารถลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว ที่มีนโยบายเน้นลงทุนหุ้นกู้ หรือกองทุนรวมผสม กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนประมาณ  4 - 5%
 
เป้าหมายระยะยาว
 
การลงทุนกองทุนรวมเพื่อเป้าหมายระยะยาว จะมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บเงินเพื่อผ่อนบ้าน เก็บเงินเพื่อวัยเกษียณ ดังนั้น จึงมีความสำคัญอย่างมาก และต้องวางแผนการลงทุนให้รอบคอบและชัดเจน โดยนอกจากผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนแล้ว ควรได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย

ดังนั้น ควรเน้นลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กับกองทุนรวมรวมเพื่อการออม (SSF) อีกทั้ง สามารถแบ่งเงินไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้นเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ๆ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ หรือกองทุนรวมหุ้นที่มีนโยบายเน้นลงทุนหุ้นปันผล
 
โดยให้ใช้วิธีการลงทุนแบบ Dollar Cost Average : DCA คือ ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีความเหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว และสร้างวินัยในการเก็บออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากสถิติการลงทุนกองทุนรวมระยะยาว จะให้ผลตอบแทนที่ระดับประมาณ 8%
 
การสร้างพอร์ตลงทุนผ่านกองทุนรวมทำได้ไม่ยาก ถ้าผู้ลงทุนทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมทำพอร์ตลงทุนมีหน้าตาที่ดูดี และสร้างรอยยิ้มให้กับเจ้าของพอร์ตได้สม่ำเสมอ และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.ค. 2563 เวลา : 16:18:00
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 2:57 pm