การตลาด
สกู๊ป ''ซีพีเอ็น'' สุ่มวางแผนรับนักท่องเที่ยวจีน ระบุพร้อมลุยหากรัฐไฟเขียว


แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะยังไม่เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย  เนื่องจากยังกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ทะยานไปถึงกว่า 17 ล้านคนแล้ว

จากความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน มีการประกาศต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ออกไปอีก 1 เดือน ถึงสิ้นเดือนส.ค.นี้ จากเดิมจะครบกำหนดในวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา  เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 6

สำหรับการผ่อนปรนในระยะที่ 6 นี้ ศบค. มีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติจำนวน 4 กลุ่มเข้ามาในประเทศไทยได้ ดังนี้ 
 
1. การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาจัดแสดงสินค้าในราชอาณาจักร 
2. การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศ 
3. Medical and Wellness โปรแกรมแพ็คเกจทัวร์ที่เชื่อมโยงเข้าไป เพื่อให้ผู้มีศักยภาพได้เข้ามาทำการรักษาได้เที่ยวต่อหลังจากอยู่ รพ. แล้ว 14 วัน 
และ 4.  ผู้ถือบัตร Thailand Elite Card มีสมาชิก 10,363 ราย อยู่ในไทย 3,108 ราย นอกราชอาณาจักร 7,255 ราย โดยมีกลุ่มที่จะนำร่องให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรอยู่จำนวน 200 ราย 
 
ส่วนการเดินทางภายใต้ข้อตกลงพิเศษ (Special Arrestment) และมาตรการสำหรับบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญ และนักการทูต ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จะต้องกักตัว 14 วัน
 
จากมาตรการผ่อนปรนที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกเร่งออกมาปรับแผนรุกรองรับชาวต่างชาติที่กำลังจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยในส่วนของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็น งัด 4 กลยุทธ์หลักรับมือ 
 
 
นายณัฐกิตต์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัลพลาซ่า , เซ็นทรัลเฟสติวัล  เซ็นทรัลเวสต์เวต  และเซ็นทรัลวิลเลจ  กล่าวว่า  บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดการท่องเที่ยวหรือ Tourist Marketing  ด้วยการจัดทำแผนกการตลาดการท่องเที่ยวเพื่อดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยว การทำตลาดร่วมกับกลุ่ม OTA (Online Travel Agent) บริษัททัวร์ เอเย่นต์  โดยการจัดโปรโมชั่น และการทำ CRM กับกลุ่มดังกล่าว 
 
นอกกจากนี้  ยังจะใช้ 4 กลยุทธ์หลักในการทำตลาดการท่องเที่ยว  ประกอบด้วย 
 
1. การสื่อสาร (Communication) ผ่านเวิล์ด ทัวริสต์แพลตฟอร์ม ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลมี Tourist Big Data เชื่อมโยงกับฐานลูกค้า “สมาชิก The 1 Tourist” ที่เข้าถึงลูกค้าต่างชาติทั่วโลกกว่า 7 แสนคน ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกกับศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเน้นการสื่อสารตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางจนมาถึงศูนย์การค้า
 
2. การเชื่อมโยงอย่างเข้าใจ (RELEVANCY) โดยเน้นการทำการตลาดที่เกี่ยวข้องกับ Journey และ Behavior ของคนจีน อย่างเข้าถึง อย่างเข้าใจ การสร้างประสบการณ์ผ่านอีเว้นท์ และอัตลักษณ์ของไทย 3. การจัดแพคเกจ โปรโมชัน World Tourist Package (Promotion) เช่น Welcome pack 365 วัน, Concierge ที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้, Tourist Service Center/ Tourist & VIP Lounge เป็นต้น 4. การสร้าง World Tourist Magnet ด้วย Brand และ Attraction (Magnet) ด้วยแบรนด์ที่หลากหลาย และมีจุดขายที่แตกต่าง
 
 
นายณัฐกิตติ์  กล่าวต่อว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่บริษัทให้ความสนใจยังคงเป็นชาวจีน โดยเฉพาะกลุ่ม Millennial ที่มีอายุตั้งแต่ 24-39 ปี  กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่ม Office Worker, Young Family และแต่งงานใหม่  ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่าย เพื่อความพอใจ  นอกจากนี้  ยังมีพฤติกรรมที่ชอบสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการที่รวดเร็ว และชื่นชอบประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งด้านวัฒนธรรม ปาร์ตี้ และช้อปปิ้ง  บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสดังกล่าว 
 
จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เบื้องต้นมีการประเมินไว้ว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน  คือ การที่ประเทศไทยเข้าร่วมมาตรการ Travel Bubble  ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ในช่วงปลายปี 2563 นี้ 
 
นายณัฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า  หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงปลายปีนี้  บริษัทจะจัดแคมเปญ Year-End เฉลิมฉลอง ช่วงเวลาแห่งความสุขที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คต้นคริสต์มาสแห่งเอเชีย  รวมไปถึงการจัดงานเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  แต่หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงเดือนมี.ค. 2564 บริษัทจะเตรียมจัดงานตรุษจีน The Great Chinese New Year  เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน  และถ้านักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงเดือนก.ค. 2564  บริษัทก็มีแผนที่จะจัดแคมเปญเทศกาลเซล The Greatest Grand Sale รองรับ
 
ปัจจุบันศูนย์การค้าเซ็นทรัล ถือเป็นเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ที่ผ่านมามีลูกค้าคนไทยคิดเป็นสัดส่วน 70% และต่างชาติ 30% ขณะที่เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต มีลูกค้าคนไทยและต่างชาติในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ  50:50  โดยมีนักท่องเที่ยวหลักเป็นชาวจีน รัสเซีย เกาหลี และเอเชีย
 
ก่อนหน้านี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ปี 2563 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยประมาณ 11.10-11.30 ล้านคน หรือเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 1.6%-3.5% ขณะที่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 550,000–560,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 1.1%-2.8% จากปี 2562
 
แม้ว่าตอนนี้จะไม่เห็นภาพนั้นแล้ว แต่จากการที่ภาคเอกชนเริ่มออกมาเตรียมแผนรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็น่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี  เพราะหลายธุรกิจยังคงต้องพึ่งพาเม็ดเงินจากต่างชาติ แม้ว่าตอนนี้หลายธุรกิจจะปรับตัวหันมาเจาะลูกค้าคนไทยมากขึ้น แต่ถ้าได้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาได้บ้างบางส่วนก็น่าจะทำให้หลายธุรกิจหายใจคล่องขึ้น  
 
สิ่งเหล่านี้จะเริ่มต้นได้เมื่อไหร่  ณ ตอนนี้คงยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างมาก

 


LastUpdate 01/08/2563 12:29:56 โดย : acnews
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 6:27 am