กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET ฟื้นตัวได้ต่อ ด้วย Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น จากความคืบหน้าเรื่องวัคซีน และตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่ยังส่งสัญญาณฟื้นตัว หนุนการฟื้นตัวต่อของ SET โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1342 และ 1353 จุด อย่างไรก็ตาม ความผันผวนยังคงอยู่ในลักษณะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเร็ว ซึ่งยังต้องระวังปัจจัยความตึงเครียดสหรัฐ-จีน ก่อนการประชุมเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้า กดดันตลาด ทั้งนี้ กรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1333 และ 1324 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ กลยุทธ์ การเข้าตลาดในช่วงนี้ ให้ใช้การเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวน และแนวโน้มหลักยังคาดอยู่ในทิศทางลง ส่วนพอร์ตลงทุน รอซื้อสะสมบริเวณ 1300 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- ยังเน้นหุ้น Domestic Play ที่ได้ sentiment เชิงบวกจากการปรับ ครม. หนุนการลงทุนภาครัฐ-รับเหมาก่อสร้าง-โครงสร้างฐานรากการบริโภคในประเทศ ส่วนหุ้น Defensive Play ยังชอบหุ้นการแพทย์ และหุ้นโรงไฟฟ้า
-วันนี้แนะนำ CPALL ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลการดำเนินงาน 2Q63 ที่ดีกว่าคาด และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นใน 2H63 เพราะ SSS จะฟื้นตัวดีขึ้นเนื่องจากไม่มีผลกระทบจากมาตรการภาครัฐในการควบคุมการระบาดของโควิด-19
- ส่วนหุ้นที่ให้ทยอยลดน้ำหนัก/หลีกเลี่ยงการลงทุน ยังคงเป็นหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงเกินไป และเงินบาทแข็งค่าในระยะสั้น ส่วนหุ้นน้ำมัน โรงกลั่น ปิโตรฯ ราคาน้ำมันมี upside จำกัด และหาจังหวะขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานดีและราคาหุ้นสะท้อนไปมากแล้ว
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยาน ปัจจัยบวกหนุนเต็มตลาด
โดย ปธน.ทรัมป์ระบุจะสั่งซื้อวัคซีนที่อยู่ในการทดลองขั้นสุดท้ายกับผู้ป่วยจาก Moderna จำนวน 100 ล้านโดส ลดทอนปัจจัยกดดันจากการเจรจามาตรการพยุงศก.ฉบับใหม่ที่ผู้นำ ส.ส.ระบุทั้ง 2 ฝั่งยังห่างไกลที่จะตกลงกันได้ นอกจากนี้ การรายงานอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ก.ค. ขยายตัว 0.6% ดีกว่าคาด และสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี สะท้อนการบริโภคเริ่มฟื้นตัว
# ราคาน้ำมันปรับขึ้น หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด
โดย EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ล่าสุดลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล แม้ว่าจะยังมีแรงกดดันอุปสงค์จากการแพร่ระบาด COVID-19 อยู่ก็ตาม
# ประเด็นติดตามวันนี้: ประชุม ครม.ต่อสัมปทาน รฟฟ. สายสีเขียว
โดยวันนี้จะเป็นการประชุมนัดแรกของ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี ถึงปี 2602 จากปัจจุบันที่ BTS จะครบกำหนดปี 2572 โดย BTS จะรับภาระ คชจ.ของส่วนต่อขยาย 2 และรับภาระหนี้เงินกู้ของ กทม. รวมทั้งกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท
Wealth Strategy
ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพ “CPF" บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 4 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ A+
บทวิเคราะห์วันนี้
ACE – 2Q63: กำไรสุทธิลดลง QoQ เพราะไม่มีกำไรพิเศษ
AOT – 3QFY63: ดีกว่าคาด เพราะค่าใช้จ่ายลดลง
BCP – 2Q63: ยังมีขาดทุนสุทธิ แต่ลดลง
CPALL – 2Q63: กำไรดีเกินคาด
EPG – 1QFY64: ถูกฉุดรั้งโดยธุรกิจยานยนต์
ESSO – 2Q63: ยังขาดทุน แต่ดีขึ้น QoQ
GFPT – 2Q63: กำไรสุทธิต่ำกว่าคาดเพราะรายการพิเศษ
MTC – 2Q63: กำไรเป็นไปตามคาด และคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
TCAP – 2Q63: กำไรตามคาด ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจ
THREL – 2Q63: กำไรต่ำกว่าคาดมากเพราะ combined ratio สูง
ข่าวเด่น