ประกัน
แบ่งเงินมาทำเท่าไรดี ถ้าคุณ...ต้องการทำประกัน


คุณอาจจะมีข้อสงสัยว่า เมื่อคุณจะทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพกับเงินเก็บก้อนแรก คุณควรจะแบ่งสัดส่วนการชำระเบี้ยประกันอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบการเงินส่วนอื่นๆ และยังทำให้คุณสามารถชำระเบี้ยประกันได้ครบตลอดระยะเวลาของสัญญา

วันนี้มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ และคุณบุณยนุช ยุทธ์ประทุม มีคำตอบมาฝาก ว่า การจัดสรรเงินเพื่อทำประกัน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มตามลักษณะการได้มาของรายได้ คือ ผู้ที่มีรายได้หลักจากเงินเดือน และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ในแต่ละเดือนไม่แน่นอน
 
 
โดยกลุ่มที่มีรายได้หลักมาจากเงินเดือน สามารถวางแผนแบ่งเงินมาทำประกันได้ง่าย เพราะมีรายได้สม่ำเสมอและแน่นอน

หลักการเบื้องต้น คือ ควรแบ่งเงินประมาณ 10 - 20% ของรายได้ในแต่ละเดือนมาทำประกัน และเพื่อไม่ให้กระทบกับเงินก้อนอื่นๆ การทำประกันควรคำนึงถึงประโยชน์ของการทำประกัน ผลประโยชน์ทางด้านภาษี วงเงินความคุ้มครองเงินเก็บในอนาคต รวมถึงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล หากเกิดการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุไว้ด้วย

และเมื่อเงินเดือนหรือรายได้เพิ่มขึ้น หากยังคงรักษาสัดส่วนแบ่งเงินมาทำประกันไว้ได้เป็นอย่างดี ก็สามารถมีเงินเก็บและมีความคุ้มครองทางประกันที่มากขึ้นด้วย

เช่น คุณเริ่มทำงานได้เงินเดือนละ 15,000 บาท แบ่งเงินมา 10% ของรายได้ต่อเดือนเพื่อทำประกัน คือ 1,500 บาทต่อเดือน หรือ 18,000 บาทต่อปี ต่อมาเงินเดือนได้ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น 50,000 บาท

ขณะที่สัดส่วนการทำประกันยังคงไว้ที่ 10% ของรายได้ต่อเดือน คือ 5,000 บาทต่อเดือน หรือ 60,000 บาทต่อปี ดังนั้น ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น แม้สัดส่วนการทำประกันยังคงที่ แต่เบี้ยประกันที่จ่ายมากขึ้นจะทำให้ได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
 
ขณะที่การจัดสัดส่วนเงินเพื่อทำประกันของผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ควรเริ่มจากความสามารถในการแบ่งเงินก้อนออกมาในแต่ละปี จากนั้นก็นำมาแบ่งเพื่อทำประกันประมาณ 10 - 20% ของรายได้ รวมถึงควรคำนึงถึงประโยชน์ของประกันเป็นสำคัญ และสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยด้วย
 
ทั้งนี้ คุณอาจมีคำถามว่า การวางแผนประกันสำคัญมากน้อยแค่ไหน ไม่ทำได้หรือไม่เพราะระวังตัวเองดีอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวยิ่งต้องระวังตัวเองมากขึ้น
 
ทั้งนี้ การวางแผนประกันที่ดี จะเป็นการช่วยลดความเสียหายจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน ลดความสูญเสีย ไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากจนเกินไป

ในบางกรณีผู้ทำประกันยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้อย่างเร่งด่วนจากกรมธรรม์ เพื่อนำมาใช้เวลาจำเป็นได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้ทำประกันจะได้รับทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและผลประโยชน์จากการทำประกันอย่างเต็มที่

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ส.ค. 2563 เวลา : 11:26:41
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 9:30 pm