การค้า-อุตสาหกรรม
กรมพัฒน์ฯ แสดงความยินดีธุรกิจค้าส่งค้าปลีกรุ่นใหม่ ผ่านการยกระดับมาตรฐานเตรียมก้าวสู่ยุค New Normal


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดพิธีมอบวุฒิบัตรให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยที่ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศที่ผ่านการพัฒนาอย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญ และมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ร้านที่มีมาตรฐานยอดเยี่ยมและมีการพัฒนาดีเด่น ย้ำ! ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก นำประเทศฝ่าวิกฤติ ก้าวสู่ยุค New Normal 

 


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 กันยายน 2563) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัด “พิธีมอบวุฒิบัตรธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ผ่านการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการร้านค้าส่งค้าปลีกให้สามารถแข่งขันได้ ประจำปี 2563” ณ ชั้น 6 ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการร้านค้าส่งค้าปลีกที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของกรม  

รองอธิบดี กล่าวต่อว่า “ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ผ่านการพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการในปี 2563 มีทั้งหมด 26 ราย โดยอยู่ในภาคเหนือ 11 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ราย ภาคกลาง 4 ราย และภาคใต้ 1 ราย โดยทั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการอย่างเข้มข้น และในระหว่างโครงการได้มีกิจกรรมบ่มเพาะองค์ความรู้และศึกษาดูงานในสถานประกอบการค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ รวมถึงมีการลงพื้นที่ให้คำปรึกษาเชิงลึก ณ สถานประกอบการ แบบเจาะลึกรายธุรกิจ ซึ่งธุรกิจจะร่วมกับที่ปรึกษาในการวินิจฉัยปัญหาและเลือกสิ่งที่ต้องการพัฒนาเชิงลึก จากนั้นจะมีการกำหนดเป้าหมายและวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่สามารถทำได้จริง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกค้าส่งค้าปลีกได้แนวทางในการแก้ปัญหาที่นำไปปรับใช้ได้ในบริบทของตนเองและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”  

“นอกจากการมอบวุฒิบัตรแล้ว กรมฯ ยังได้มอบรางวัลธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่มีมาตรฐานยอดเยี่ยม (Excellence) สำหรับกิจการที่มีคะแนนในการพัฒนาสูงสุดตามเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 8 หมวด ซึ่งกรมฯ จะผลักดันธุรกิจกลุ่มนี้ให้เป็น Best Practices ต่อไป สำหรับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศและรางวัลธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่มีการพัฒนาดีเด่น (High Potential) จะเป็นธุรกิจที่มีการพัฒนาอย่างโดดเด่นภายหลังจากได้รับการวิเคราะห์จากที่ปรึกษา อย่างไรก็ดี ทุกธุรกิจที่ผ่านการพัฒนาในโครงการนี้จะสามารถเป็นต้นแบบให้กับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั่วไป รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาร้านค้าโชวห่วยเครือข่ายในพื้นที่ได้” 

“สำหรับการพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานฯ นั้น ไม่ได้เพียงแต่พัฒนาให้ธุรกิจมีความสามารถทางการแข่งขันและมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ประกอบกับสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ร้านค้าเหล่านี้ยังสามารถเป็นพี่เลี้ยงช่วยเหลือร้านค้าโชวห่วยให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เพราะร้านค้าโชวห่วยเป็นส่วนที่สำคัญของระบบนิเวศอุตสาหกรรมค้าส่งค้าปลีก เป็นร้านค้าที่คอยอำนวยความสะดวกประชาชนทั่วไปในการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งการพัฒนาประสิทธิภาพจะทำให้ร้านค้าโชวห่วยมีต้นทุนต่ำลง และมีกำไรสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ร้านค้าโชวห่วยสามารถช่วยเหลือสังคมผ่านการลดราคาได้มากขึ้น”  

“ปัจจุบันมีร้านค้าส่งค้าปลีกที่ผ่านการยกระดับมาตรฐานแล้วจำนวน 212 ราย ประกอบไปด้วย 1,225 ร้านค้า และมีร้านค้าโชวห่วยกว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้น การพัฒนาประสิทธิภาพของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจึงมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังยุค Covid-19 ที่ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างที่เรียกว่า “พลิกฝ่ามือ” โดยผู้บริโภคใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ต้องการสินค้าราคาถูกและให้ความสำคัญกับสุขอนามัยมากขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก รวมถึงร้านค้าโชวห่วยจะต้องปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันโลกและแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ นอกจากนี้ เมื่อมองภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะภาคค้าส่งค้าปลีกและโชวห่วยมีบทบาทขึ้นมากหลังภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ จึงนับเป็นภารกิจสำคัญของกรมฯ ที่ต้องเร่งพัฒนาธุรกิจกลุ่มนี้ ให้ปรับตัวและอยู่คู่กับสังคมต่อไปให้ได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าธุรกิจที่ผ่านการพัฒนาในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจฐานรากและระบบ Ecosystem ของอุตสาหกรรมค้าส่งค้าปลีกสามารถขับเคลื่อนไปได้ และพาประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ต่อไป” รองอธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ก.ย. 2563 เวลา : 12:45:12
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:09 am