เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ธปท. แถลงผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2563


นางสาว สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2563 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคง โดยมีเงินกองทุน เงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้  มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อและชะลอการด้อยลงของคุณภาพสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์  ขณะที่ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง ซึ่งเป็นผลจากการกันสำรองในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรองรับคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงจากผลกระทบของ COVID-19 โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,959 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ที่ร้อยละ 19.8  เงินสำรองอยู่ในระดับสูงที่ 782.5 พันล้านบาท โดยอัตราส่วนเงินสำรองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) อยู่ที่ร้อยละ 149.7 และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง
 
 
 
เพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ที่ร้อยละ 184.9
ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปี 2563 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 4.6 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากร้อยละ 5.0 ในไตรมาสก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้
 
 
สินเชื่อธุรกิจ (ร้อยละ 64.6 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ร้อยละ 4.5 เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุนแทนการใช้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์  ขณะที่สินเชื่อ SMEs  หดตัวในอัตราที่ลดลงจากผลของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) และการทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 
 
 
สินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 35.4 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19  ทั้งนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่อยู่อาศัยแนวราบที่ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน
 
 
คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 ยังคงได้รับผลจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ โดยยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan: NPL หรือ stage 3) อยู่ที่ 513.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 3.14 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 3.09  ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของ
 
 
ความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (Significant Increase in Credit Risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่ร้อยละ 7.03 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 7.49 
 
 
 
ในไตรมาส 3 ปี 2563 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 28.0 พันล้านบาท ทำให้ภาพรวมกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 130.4 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจากการกันสำรองในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรองรับแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงในระยะต่อไป  สำหรับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Assets: ROA) ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.52 จากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 0.60 และอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.55 จากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 2.60 ซึ่งเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อที่ลดลงเป็นสำคัญ 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 พ.ย. 2563 เวลา : 15:35:34
08-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 8, 2024, 2:10 am