ทางเทคนิคส่งสัญญาณปรับตัวลงต่อเรื่อง ปัจจัยทุนต่างชาติไหลออกกดดันหันผันผวน
สำหรับราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อ จะดีดตัวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งเราเชื่อว่าเราสามารถทำได้ โดยอาจใช้เวลามากกว่า 3 ปี
อีกทั้ง ปธน. ไบเดนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จะทำให้เกิดเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.37% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.24% ส่งผลให้เกิด Reverse Dollar Carry trade เนื่องจากต้นทุนเงินทุนที่ปรับตัวขึ้น อีกทั้งทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มีความเห็น เรามองกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,765-1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมองว่ามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากในทางเทคนิคมีการสร้าง Lower Low โดยหากหลุดแนวรับ 1,765 $/Oz มีโอกาสปรับตัวลงได้แรงสู่ 1,740-1,750 $/Oz
โดยประเด็นกดดันมาจากแรงขายของกองทุน SPDR ที่มีสถานะขายตั้งแต่ต้นปี 81 ตัน (ปี 63 สถานะซื้อ 275 ตัน) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 1.37% ยังเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่าน (25 ก.พ.) ดัชนีดีดตัวขึ้น 5.67 จุด โดยดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ประกอบกับกลุ่ม ENERG ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,496.78 จุด +5.67 จุด +0.38% มูลค่าการซื้อขาย 124,121 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลดบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังคงแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศที่ไหลออกต่อเนื่องและการประกาศงบการเงินทำให้อาจมีแรงขาย Sell on fact ส่วนปัจจัยหนุนคือราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และวัคซีน COVID ล็อตแรกได้เดินทางมาถึงไทยเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,485 - 1,530 จุด
ส่วน 2 หลักทรัพย์ที่น่าจับตามอง ได้แก่ หุ้น CK ราคาปิดล่าสุด 15.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นยืนเหนือเส้น EMA 5 และ 10 วันและสร้างสัญญาณ Golden Cross สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทาง แนวรับอยู่ที่ 15.00 บาท แนวต้าน 16.00-17.00 บาท ส่วนจึด cut loss 14.80 บาท
และ COTTO ราคาปิดล่าสุดที่ 1.36 บาท เกิดรูปแบบกลับตัว U Shape พร้อมวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่ชี้ขึ้นทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1.44-1.50 บาท มีแนวรับที่ 1.32 บาท และจุด cut loss ที่ 1.30 บาท
ข่าวเด่น