หุ้นทอง
ราคา NAV ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการของกองทุน


 ราคา NAV ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการของกองทุน


ทุกครั้งก่อนที่คุณจะลงมือซื้อกองทุนรวม สิ่งที่คุณมักจะดูเป็นปัจจัยแรกๆ ก็คือ “NAV” แต่คุณทราบหรือไม่ว่า NAV คืออะไร และ NAV มีประโยชน์อย่างไรกับคุณบ้าง

วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขออธิบายให้คุณรับทราบ กันเบื้องต้นก่อนว่า NAV (Net Asset Value) หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คือ มูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดของกองทุนรวม รวมถึงผลประโยชน์ต่างๆ ที่กองทุนรวมได้รับจากการลงทุน หักออกด้วยค่าใช้จ่ายและหนี้สินของกองทุนรวมนั้น

โดยปกติแล้ว จะทำการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนตามราคาตลาดในแต่ละวัน (Mark to Market) เพื่อให้สะท้อนถึงมูลค่าที่เป็นจริงตามสภาวะตลาดที่ได้เปลี่ยนแปลงไป 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะเป็นผู้คำนวณราคา NAV และเปิดเผยให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปทราบทุกสิ้นวันทำการ โดยจะประกาศเป็น “มูลค่าต่อหน่วยลงทุน” ให้เรารับทราบกัน ซึ่งมูลค่าต่อหน่วยลงทุนนี้อาจสูงขึ้นหรือต่ำลงก็ได้ แล้วแต่ภาวะการลงทุนในแต่ละวัน 



แล้ว NAV มีประโยชน์อย่างไร

นอกจาก NAV จะแสดงถึง “มูลค่าที่แท้จริงของกองทุนรวม” แล้ว ยังแสดงถึง “ราคาซื้อ” หรือ “ราคาขายคืน” กองทุนรวมอีกด้วย โดยหากเราต้องการจะ “ซื้อ” ให้ดูราคาที่ช่อง “ราคาขาย” ในทางกลับกัน หากคุณต้องการจะขาย ให้ดูที่ช่อง “ราคารับซื้อคืน” ซึ่งส่วนใหญ่ราคาขายจะสูงกว่าราคารับซื้อคืนประมาณ 0.0001 บาท และหากมีค่าธรรมเนียมการซื้อ ก็จะบวกเข้าไปในราคาขายด้วย 

นอกจากนี้ NAV ยังเป็นตัวเลขที่สะท้อนผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่ดีที่สุด เพราะการเปลี่ยนแปลงของ NAV จะทำให้คุณ ในฐานะผู้ถือหน่วยลงทุนทราบว่า แต่ละกองทุนนั้นบริหารกองทุนแล้ว ทำให้คุณ และผู้ถือหน่วยได้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยเพียงใด 

หากมูลค่าต่อหน่วยลงทุนสูงขึ้นมากกว่าราคาที่คุณลงทุนเริ่มแรก คุณจะอยู่ในฐานะ “กำไร” แต่หากมูลค่าต่อหน่วยลงทุนลดลงน้อยกว่าราคาที่ได้ลงทุนเมื่อเริ่มแรก คุณก็จะตกอยู่ในฐานะ “ขาดทุน”


ขณะเดียวกัน ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ NAV ก็ยังมีให้คุณเห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องราคาต่อหน่วย NAV ที่บางกอง 100 บาท บางกองแค่ 10 บาท คุณ และผู้ถือหน่วยหลายท่าน จึงมองว่าเป็นเรื่องของ “ความถูกและแพงของ NAV”

โดยคุณ มักจะคิดว่ากองทุนรวมที่มี NAV สูง คือ กองทุนรวมที่มีราคาแพงซื้อแล้วได้หน่วยลงทุนน้อย ไม่น่าลงทุน ขณะที่กองทุนรวมที่มี NAV ตํ่า แปลว่าราคาถูก ซื้อแล้วได้หน่วยลงทุนเยอะ น่าลงทุนมากกว่า 

ดังนั้นการที่ NAV ต่ำ จึงไม่ได้แปลว่าถูก และ NAV สูง ก็ไม่ได้แปลว่าแพง เพราะในความเป็นจริง ราคาของ NAV ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผลประกอบการของกองทุนเลย

ดังนั้น คุณจึงควรพิจารณาปัจจัยที่สำคัญในการลงทุน เช่น นโยบายการลงทุน ผลตอบแทนในอดีต ความเสี่ยง เงื่อนไขการลงทุน ไปจนถึงผู้จัดการกองทุนที่บริหารอยู่ในขณะนั้นมากกว่าพิจารณาจาก “ความถูกหรือแพงของ NAV”

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 มี.ค. 2564 เวลา : 09:11:39
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 2:22 am