หุ้นทอง
กุญแจสำคัญ ทำกำไรระยะยาวในตลาดอนุพันธ์


การเป็นนักลงทุนระยะยาว หากเลือกลงทุนได้ถูกต้องและทยอยลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging : DCA) อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์ในการซื้อขายมากนัก แต่หากลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะลงทุนในอนุพันธ์ ทั้งฟิวเจอร์ส และออปชันที่มีวันครบกำหนดอายุของสัญญาหรือสิทธิ อาจต้องมีการวางแผนเพื่อกำหนดจุดซื้อ (Long) และขาย (Short) หรือจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ชัดเจน

เพราะถ้าไม่กำหนดเป็นแผนในการลงทุนตั้งแต่แรก เมื่อราคาฟิวเจอร์สหรือออปชันเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นใจ เราอาจทำอะไรไม่ถูก จนประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก การกำหนดจุดเปิดและปิดสถานะก่อนเริ่มลงทุน จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่รอดในตลาดอนุพันธ์
 
 
ในมุมมองของ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ และคุณณัฐพล คำถาเครือไม่ค่อยห่วงการวางจุดเปิดสถานะ เพราะสภาพจิตใจของคุณยังไม่ถูกกดดันจากสภาพตลาดและผลลัพธ์ทั้งด้านบวกและลบของการเปิดสถานะ

แต่จุดที่ต้องล้างสถานะ ไม่ว่าจะเป็นการปิดสถานะเพื่อทำกำไร หรือการปิดสถานะเพื่อตัดขาดทุน เป็นจุดที่ตัดสินใจยากกว่า เพราะถูกครอบงำด้วยอารมณ์ (ดีใจ/เสียใจ) หรือความรู้สึก(โลภ/โกรธ) ทำให้การส่งคำสั่งไม่สอดคล้องกับแผนการลงทุนที่วางไว้ จนก่อให้เกิดความเสียหายได้
 
ก่อนอื่นอยากให้ได้เห็นถึงผลลัพธ์จากการปล่อยให้ขาดทุน เปรียบเสมือนเวลาเล่นกีฬาปีนหน้าผาแล้วเหยียบพลาด ทำให้ร่วงลงมาตามแนวลวดสลิงที่รัดตัวอยู่ กว่าจะกลับไปปีนได้ใหม่ ต้องรอลวดสลิงนิ่งก่อน แล้วค่อยๆ เอาขาทีละข้างพยุงตัวเองขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ต้องออกแรงมากว่าตอนปีนในครั้งแรก
 
เช่นเดียวกับการลงทุน ผลขาดทุนในแต่ละครั้งจะทำให้ต้องเหนื่อยกับการลงทุนครั้งถัดไปมากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าใส่เงินลงทุนไป 100 บาท แล้วปล่อยให้ขาดทุน 50 บาท (50%) ถ้าจะทำให้กลับไปที่ 100 บาทเท่าเดิม ก็ต้องใส่เงินลงทุนอีก 50 บาท แต่คำถาม คือ จะทำได้หรือไม่
 
ท่ามกลางสภาพจิตใจที่ผิดหวัง หงุดหงิด การจะกลับไปได้จึงเป็นเรื่องที่สามารถประเมินได้ยาก ดังนั้น ถ้าไม่อยากเจ็บปวดจากการลงทุนจนคุณต้องออกจากตลาดก่อนเวลาอันควร ก็ไม่ควรปล่อยให้ขาดทุนหนัก
 
การพูดว่า อย่าปล่อยให้ขาดทุนหนักเป็นเรื่องง่าย แต่การปฏิบัติจริงเป็นเรื่องยากมาก การป้องกันเพื่อไม่ให้เข้าสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงเป็นสิ่งที่คุณควรเรียนรู้และฝึกวางแผนการลงทุนไว้ตั้งแต่แรก
 
ถ้าเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) จะมีคำถาม 3 ข้อที่ต้องตอบให้ได้ก่อนตัดสินใจขายหุ้น คือ ซื้อหุ้นนี้ทำไม มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง และการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้เหตุผลในการซื้อหุ้นนี้เปลี่ยนไปหรือไม่
 
เมื่อนำมาปรับใช้กับการลงทุนในอนุพันธ์ ควรถามตัวเองก่อนว่า เปิดสถานะซื้อ (Long) หรือขาย (Short) ทำไม

มีอะไรเปลี่ยนไปจากที่วางแผนไว้หรือไม่

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้น ทำให้เหตุผลในการตัดสินใจเปิดสถานะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่
 
ถ้าคำตอบ คือ “ใช่” แสดงว่า สถานการณ์เปลี่ยนจากที่คิดโดยสิ้นเชิง คุณก็ควรปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยง แล้วกลับมาวางแผนก่อนเปิดสถานะใหม่ด้วยคำถาม 3 ข้ออีกครั้ง
 
แผนในการลงทุนอนุพันธ์

1.ถามตัวคุณเองว่าจะเปิดสถานะใด โดยเปิดสถานะซื้อ (Long) เมื่อคิดว่า “ขึ้น” และให้เปิดสถานะขาย (Short) เมื่อคิดว่า “ลง” หากยังคาดการณ์ทิศทางไม่เก่ง ให้ลองตามบทวิเคราะห์แล้ววิเคราะห์เองควบคู่ไปด้วย

2.กำหนดจุดเปิดและปิดสถานะให้ชัดเจน เช่น เปิด Long SET50 Index Futures ที่ 1,000 จุด ทำกำไรที่ 1,010 จุด และตัดขาดทุนเมื่อต่ำกว่า 995 จุด

3.กำหนดจุดทำกำไรเป็น 2 เท่าของจุดตัดขาดทุนเสมอ ทุกครั้งที่เปิดสถานะ แปลว่ามีความมั่นใจว่าจะได้กำไรการกำหนดจุดทำกำไรไกลกว่าจุดตัดขาดทุน จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง

4.พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เหตุผลการเปิดสถานะเปลี่ยนแปลงโดยไม่หลอกตัวเอง หากสถานการณ์เปลี่ยนไป อาจต้องปิดสถานะก่อนถึงจุดตัดขาดทุน

5.หากถึงขั้นต้อง “ตัดขาดทุน” ไม่มีคำว่า “ทยอยปิดสถานะ” ต้องปิดสถานะทั้งหมดเท่านั้น

6.ขาดทุนครั้งละน้อยๆ และบ่อยครั้ง ยังดีกว่าขาดทุนหนักจนหมดหน้าตักในคราวเดียว

7.อย่าเปิดสถานะจนทำให้ต้องกังวลกับฐานะความเป็นอยู่ หรือการใช้ชีวิตประจำวันปกติ

8.อย่าคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้ต้องเร่งเปิดสถานะ เพื่อเอาเงินคืนจากการขาดทุนอย่างหนักในรอบก่อนหน้า
 
ในโลกของการลงทุนปัจจุบัน คุณไม่สามารถนำทฤษฎีที่เคยใช้ได้ผลดีในอดีตกลับมาใช้ทำกำไรเกินปกติได้ตลอดเวลา ขณะที่การคาดการณ์ทิศทางเพื่อเปิดหรือปิดสถานะเริ่มยากขึ้น จากการเคลื่อนไหวของราคาฟิวเจอร์ส
หรือออปชันที่เข้าสู่จุดสมดุลอย่างรวดเร็ว เช่น วิเคราะห์มาอย่างดีว่าวันนี้ SET50 Index Futures ต้องปรับตัวขึ้น ปรากฎว่าขึ้นจริง แต่เป็นลักษณะเปิดกระโดดขึ้นไปเลย 10 จุด ก็ต้องกลับมาทบทวนแผนใหม่ว่าจะเปิดสถานะซื้อ (Long) ต่อ หรือเปลี่ยนมาเป็นฝั่งขาย (Short) ดี
 
การวางแผนกำหนดจุดเปิดและปิดสถานะ รวมถึงการตัดขาดทุน (Stop Loss) จึงกลายเป็นศาสตร์และศิลป์ที่คุณต้องเรียนรู้และฝึกฝนผ่านกระบวนการซื้อขาย ซึ่งจะช่วยคุณลดความสูญเสียในการลงทุน ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการอยู่รอดในระยะยาว
 
หากคุณสามารถเชื่อมโยงมาที่การวางแผนทางการเงินของตัวเองได้ จะยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดถึงไม่ควรปล่อยให้การลงทุนในทุกรูปแบบเกิดภาวะขาดทุนอย่างหนัก

คำตอบที่ง่ายที่สุด คือ การลงทุนช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินง่ายขึ้นด้วยผลตอบแทนทบต้นต่อเนื่อง แต่การขาดทุนจะทำให้บรรลุเป้าหมายช้าลง หรือถ้าเข้าสู่ภาวะขาดทุนเรื้อรังอาจทำให้ฝันสลายจากเป้าหมายทางการเงินที่ถูกทำลายที่ละเป้าทีละเป้า เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้ขาดทุนมากและนานเป็นดีที่สุด
 
สำหรับมือใหม่หัดเทรดฟิวเจอร์สหรือออปชัน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างไรให้ได้กำไรทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning กลุ่มหลักสูตร “การลงทุนในอนุพันธ์” ฟรี ติดตามที่เว็บไซด์ตลาดหลักทรัพย์ฯ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 เม.ย. 2564 เวลา : 09:38:43
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 10:29 pm