ดัชนีสัปดาห์นี้ Sideway ออกข้างแรงหนุนเยียวยาโควิด3
ราคาทองคำโลกในเดือนเมษายนปรับตัวขึ้น 90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลงจาก 1.69% สู่ 1.65% ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สำหรับปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลงนั้น มาจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรอย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อสเดือน จนกว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และการสร้างเสถียรภาพด้านราคา
นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานว่า สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียพร้อมกับขับไล่ทูตรัสเซีย 10 คนออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งและแฮกข้อมูลของสหรัฐ ซึ่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ประกาศกร้าวว่า จะตอบโต้ สหรัฐ อย่างสาสม จากการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียและขับไล่ทูตรัสเซียออกจากประเทศ
ทั้งนี้ จากความผันผวนของราคาทองคำ ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประมาณกรอบทองคำในเดือนนี้ที่ 1,750-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้กลับมาเล่นฝั่ง Long เนื่องจากในทางเทคนิคราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาได้ อีกทั้งทองคำตอบสนองต่อข่าวร้ายลดลง แต่ตอบสนองต่อข่าวดีเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณของการกลับตัวเพิ่มเติม
สำหรับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 พ.ค.) ในระหว่างวันดัชนีขึ้นไปถึง 17 จุดจากนั้นมีการย่อตัวลงมา มีแรงซื้อเข้ามามากในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และกลุ่มพาณิชย์ โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,583.13 จุด +11.44. จุด +0.73% มูลค่าการซื้อขาย 87,408 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากมาตรการเยียวยาโควิดระลอก 3 ของภาครัฐ ขณะที่แรงกดดันหลักยังอยู่ที่กับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ITEL ราคาปิดล่าสุด 4.00 บาท ราคาอยู่ในกรอบขาขึ้น โดยมี Volume เข้าวันแรก และ MACD เพิ่งพลิกตัด Signal Line หากผ่าน High เดิมที่ 4.30 บาทได้ ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 4.50 บาท แนวรับอยู่ที่ 3.96 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 3.90 บาท
และหุ้น TASCO ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 20.50 บาท กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ โดยมีปริมาณการซื้อขายสะสมต่อเนื่อง และ Slow Sto ส่งสัญญาณซื้อหนุน คาดราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 21.00-21.40 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 20.20 บาท และจัด cut loss อยู่ที่ 20.00 บาท
ข่าวเด่น