เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังฯ เผย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนมิถุนายน2564


 “ดัชนี RSI เดือนมิถุนายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาคสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกเนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) จะคลี่คลายจากการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน”


 
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังและนายพิสิทธิ์พัวพันธ์ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมิถุนายน2564จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด76 จังหวัดทั่วประเทศสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า “ดัชนีRSI เดือนมิถุนายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาคสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกเนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) จะคลี่คลายจากการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน”

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 62.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและการจ้างงานเนื่องจากเข้าสู่ฤดูเพาะปลูก และมีนโยบายความช่วยเหลือภาคการเกษตรจากภาครัฐ อาทิ มาตรการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น ในส่วนของการจ้างงานคาดว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น ประกอบกับการมีมาตรการส่งเสริมการจ้างงานของภาครัฐดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 61.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นเช่นกันโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากปริมาณน้ำมีเพียงพอและสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในส่วนของภาคอุตสาหกรรมคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019จะคลี่คลายจากการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้มีความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมมากขึ้นดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 59.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูก ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จะมีแนวโน้มคลี่คลายลงจากการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติประกอบกับการได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 57.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น
 
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรเนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราเพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ 56.9 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าเกษตรเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสำหรับภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นจากมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะก่อให้เกิดความต้องการสินค้าเพิ่มสูงขึ้นดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ 48.1 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะภาคการบริการและการลงทุน เนื่องจากมีความไม่มั่นใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ47.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ชะลอลง เนื่องจากยังมีความกังวลจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่นกัน อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในอนาคตของภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 มิ.ย. 2564 เวลา : 17:38:11
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 2:01 am