หุ้นทอง
ส่องหุ้น มองทอง : กรอบทองคำในเดือนนี้ที่ 1,770-1,850 ดอลล์


กรอบทองคำในเดือนนี้ที่ 1,770-1,850 ดอลล์


ขาดปัจจัยใหม่หนุนนลาดหุ้นโอกาสปรับตัว Sideway Down

ราคาทองคำโลกในเดือนกรกฎาคมปรับตัวขึ้น 44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงสู่ 1.37% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการลงทุนถือครองทองคำลดลง และสภาทองคำโลกระบุว่า 1 ใน 5 ของธนาคารกลางรายใหญ่มีแผนที่จะเพิ่มทองคำในระบบทุนสำรองในปีหน้าเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม

นอกจากนี้ทองคำได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายพาวเวล ได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้

พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ส่วนประเด็นเงินเฟ้อ นายพาวเวลมองว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว จากการที่รัฐต่างๆทำการเปิดเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ จากความผันผวนของราคาทองคำและความกังวลในการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดในการประชุมเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในเดือนนี้ที่ 1,770-1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน จากความกังวลการปรับลดวงเงิน QE

ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ส.ค.) ดัชนีปรับตัวผันผวน โดยในช่วงเช้ามีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้น DELTA หลังจากนั้นมีแรงขายออกมาทำให้ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง ลงต่ำสุดประมาณ –13 จุด จากปัจจับลบในประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงทำระดับสูงต่อเนื่อง

ประกอบกับนักลงทุนขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีการชุมนุมทางการเมืองในวันหยุด และเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องกดดันให้ Fund Flow ไหลออกจากประเทศไทย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,521.72 จุด -5.94 จุด -0.39% มูลค่าการซื้อขาย 82,518 ล้านบาท
 

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวในลักษณะ Sideway Down โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่แรงกกดดันหลักยังอยู่ที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศ ที่ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบไตรมาสสอง ของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,550 จุด

ส่วนสองหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น VNG ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 8.05 บาท ดีดตัวกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อม Volume เข้า และ Slow Sto. เตรียมพลิกตัวส่งสัญญาณบวก หากผ่าน High เดิมที่ 8.70 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 9.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 7.80 บาท และมีจุด cut loss ที่ 7.70 บาท

และหุ้น GULF ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 37.25 บาท ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พร้อม Volume เข้าสามวันติด และ Slow Sto.+MACD ส่งสัญญาณซื้อหนุน คาดราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 40.00-42.00 บาท มีแนวรับที่ 35.50 บาท และจุด cut loss ที่ 35.00 บาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ส.ค. 2564 เวลา : 09:32:58
02-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 9:14 pm