ประกัน
FWD ประกันชีวิต เสนอประกันแนวคิดใหม่ พร้อมชูโรงช่องทางดิจิทัล สู่ที่1ในใจลูกค้า


FWD ประกันชีวิต เดินหน้าตามเป้าหมายครองความเป็นที่ 1 ในใจลูกค้า สานต่อแนวคิดการเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อประกันชีวิต รวมระยะเวลา 1 ปีหลังควบรวมกิจการ เน้นสร้างความแข็งแกร่งองค์กรจากภายในสู่ภายนอก ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อน พร้อมสร้างคนด้วยแนวคิด “บริษัทประกันชีวิตที่แตกต่าง” ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า สนับสนุนให้คนมีความสุขกับการใช้ชีวิต ผ่านแคมเปญ “Celebrate living”  คว้า 2 รางวัลระดับโลก พร้อมเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี 3 ไตรมาส กว่า 11,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต
   


นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต กล่าวว่า ในปี 2565  FWD ขับเคลื่อนแผนตามแนวทางการบริหารงานภายใต้วิสัยทัศน์การเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต และดำเนินนโยบายการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่แตกต่างและเป็นผู้นำด้านดิจิทัล “Digital by design” ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการด้วยแรงบันดาลใจจากลูกค้า รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยเข้ามาใช้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ตอบรับยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
 

ทั้งนี้ นายเดวิดเปิดเผยว่า จากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (FWD Life) และ บริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (SCB Life) อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 FWD ประกันชีวิต นั้นมีสิ่งที่ต้องปรับหลายอย่างมาก เพราะด้วยความที่วัฒนธรรมองค์กรไม่เหมือนกัน จึงได้เริ่มจากการเปลี่ยนระบบหลังบ้าน โดยดำเนินกลยุทธ์สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวผ่านการปลูกฝังแนวคิดยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-led) ปรับระบบการทำงานภายในให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และพัฒนาศักยภาพพนักงานให้มีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า พร้อมกับการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง
 


สำหรับการปรับตัวสู่ภายนอก FWD ประกันชีวิต ได้ใช่เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพและโรคร้ายแรง โดยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา FWD ประกันชีวิต ได้ออกผลิตภัณฑ์ “OPD คุ้มครบ จบหายห่วง”  และ “ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง”  รวมทั้งการพัฒนาบริการ “FWD Care” เป็นรายแรกของธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่ให้ความดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านบริการพิเศษต่างๆ หลังจากที่ลูกค้าได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก  โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวมีอัตราเติบโตด้านเบี้ยประกันรับกว่า 300% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นอกจากนี้นายเดวิดยังได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนต่างมีความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต หรือ “Living without Worry” ทาง FWD ประกันชีวิตเล็งเห็นอินไซด์นี้จึงได้มีการสื่อสารด้วย Content ชัดเจน เข้าใจง่าย ผ่านงานโฆษณาที่มุ่งเน้นการส่งต่อพลังใจ ส่งต่อทัศนคติเชิงบวก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมอบความสุขผ่านแคมเปญ “Celebrate Living” ที่สนับสนุนให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแบบที่ชอบอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล ผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งถือเป็นการปรับกลยุทธ์ใหม่เช่นกัน โดยจะมุ่งสู่การทำให้ FWD ประกันชีวิตกลายเป็นดิจิทัลแบรนด์ในทุกมิติ ซึ่งนายเดวิดยังกล่าวเพิ่มเติมว่าทางแบรนด์นั้นโฟกัสช่องทางสื่อสารแบบ Multi Channel เพื่อสามารถสื่อสารไปยังลูกค้าได้ครอบคลุมตอบสนองทุกความต้องการ Anytime, Anywhere
 
 

ด้าน นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า แคมเปญ Celebrate living มาจากการนำแนวคิด “Customer-led” มาใช้ ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลเชิงลึกกับลูกค้าพบว่า ก่อนช่วงCovid-19 คนไทยจะมีความสุขกับเรื่องที่เป็น “Big Events” หรือโมเม้นต์ใหญ่ๆในชีวิต แต่หลังเกิดCOVID-19 ผู้คนหันมามองเห็นความสุขในสิ่งเล็กๆที่เกิดขึ้นรอบตัวหรือ “Micro moments” โดยเรื่องที่มาเป็นอันดับ1คือ เรื่องของ Entertainment โดยเฉพาะการฟังเพลง ทางFWD จึงได้เอาอินไซด์เหล่านี้มาผนวกรวมกันได้ออกมาเป็นกลยุทธ์การสื่อสารรูปแบบใหม่ โดยส่งต่อแนวคิดแบรนด์แคมเปญผ่านการทำ Musicumentary บอกเล่าเรื่องราวความสุขเล็กๆ ของผู้คนจริงๆ ในสังคม ได้จากการ Capture Momentนั้นๆมา ไม่ใช่การแสดง เพราะจากการสำรวจคนไทยก็ชอบเรื่องที่เป็นเรื่องจริง ปรุงแต่งน้อยที่สุดเช่นกัน  โดยถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์ โทรทัศน์ ป้ายโฆษณา และวิทยุ เพื่อส่งต่อพลังบวกและสร้างกำลังใจ เป็นการฉีกรูปแบบโฆษณาประกันที่ส่วนใหญ่จะสื่อสารผ่านความกลัวและสร้างน้ำตากับผู้ชม จึงส่งผลให้ภาพยนตร์โฆษณาประสบความสำเร็จโดนใจคนไทยทั่วประเทศ 

นางสาวปวริศายังได้เสริมอีกว่ายังมีอีก 1กลยุทธ์สำคัญคือ “Brand Experience”  สร้างกระสบการณ์ให้คนเข้าถึงแบรนด์มากขึ้นผ่าน “Brand Sensory” ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้นำด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนม หรืองานศิลปะ เพื่อให้เข้าไปอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คน อาทิ senses of sound  ที่ชวนทุกคนมา “Celebrate living” ผ่านบทเพลงสุดพิเศษ ‘Joy of Living’ ที่ได้จับมือร่วมกับ ว่าน ธนกฤต ศิลปินชื่อดัง มาร่วมถ่ายทอดความสุขและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และ senses of taste โดยร่วมมือกับเชฟมืออาชีพ ‘Guss Damn Good’ ที่ได้ออกแบบและผลิตไอศกรีมรสพิเศษไปแล้ว และยังรวมกับ ‘Drop by Dough’ ออกรสชาติโดนัทใหม่ในปลายปีนี้ เป็นการสะท้อนภาพแบรนด์และความเป็น FWD  ผ่านรสชาติและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์
 

“ทั้งนี้ ความสำเร็จของแบรนด์และการส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า ทำให้เราได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 1 ด้านแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งได้รับการโหวตจากผู้บริโภคประจำปี 2564 จัดโดย บริษัท เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำระดับโลก และ รางวัลแบรนด์ที่โดดเด่นประจำปี 2564 (Outstanding Brands Awards 2021) จัดโดย บริษัท อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนถึงมุมมองและความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ FWD ประกันชีวิต และยังประสบความสำเร็จด้านเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี (New Business Annualize Premium) 11,138 ล้านบาท (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564) มีส่วนแบ่งตลาด 15% เป็นอันดับ  2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต แบ่งเป็น เบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี จากช่องทางธนาคาร (Bancassurance) 9,338 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ที่  29% เบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี ที่มาจากตัวแทนประกันชีวิต 1,163 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง  50% โดยมีจำนวนตัวแทนประกันชีวิตในปัจจุบัน 4,615  ราย และมีเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี จากช่องทางอื่นๆ อีก (Alternative) 576 ล้านบาท รวมทั้งเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี จากช่องทาง Digital  60.2 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 43% โดยเราตั้งเป้าเติบโตช่องทาง Digital อย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ Digital by design” นางสาวปวริศากล่าว

“ในปีหน้าเราเชื่อว่ายังมีความท้าทายใหม่หลายอย่างที่จะเข้ามา ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และ ขีดความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังมีโอกาสอีกมากสำหรับธุรกิจประกันชีวิตเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเปิดใจและเล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิตมากขึ้น  ซึ่งเรายังคงสานต่อภารกิจเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อการประกันชีวิตจากที่มองว่าเป็นความน่ากลัว ให้น่าเข้าหามากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งยังมีแผนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายที่สำคัญคือ การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค” นายเดวิดกล่าวทิ้งท้าย

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ธ.ค. 2564 เวลา : 18:09:34
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 3:39 pm